เมื่อวันที่ 23 ก.ค. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสาน 10 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร ให้เฝ้าระวังและติดตามระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป โดยให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกันน้ำ พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน และผู้ประกอบกิจการ รวมถึงประชาขนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) ได้รับแจ้งจากกรมชลประทานว่า ในช่วงวันที่ 14-17 ก.ค.67 ที่ผ่านมา ประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ และจากการคาดการณ์ปริมาณน้ำล่วงหน้า 1 – 3 วันข้างหน้า พบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยวันที่ 21 ก.ค.67 ที่สถานี C.2 อำเภอเมืองฯ จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,000 – 1,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และลำน้ำสาขาประมาณ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณระหว่าง 1,200 – 1,300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และรับน้ำเข้าระบบกรมชลประทาน 2 ฝั่ง ในอัตรา 500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที กรมชลประทานจึงมีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราระหว่าง 700 – 800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.60 – 0.80 เมตร ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป โดยไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชน

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) จึงได้ประสานจังหวัดริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 10 จังหวัด ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มค่ำนอกคันกั้นน้ำ โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยเป็นระยะ พร้อมทั้งแจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง บริษัท ห้างร้าน ผู้ประกอบการ และประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองแม่น้ำให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ สำหรับกลุ่มผู้ประกอบและประชาชนริมสองฝั่งแม่น้ำ ขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการและปฏิบัติตามคำแนะนำในการเตรียมพร้อมรับมืออย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถติดตามรายงานคาดการณ์และแจ้งเตือนภัยได้ทางเฟซบุ๊ก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews รวมถึงติดตามประกาศแจ้งเตือนภัยได้ทางแอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” โดยหากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อนผ่าน LINE ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานการให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที