กรณีประเด็นร้อนโลกออนไลน์ เมื่อแฟนๆ ดูคลิปล่าสุดในช่อง Cullen Hateberry ของ คัลแลน และ จอง ยูทูบเบอร์หนุ่มชาวเกาหลี ที่ไปเที่ยวที่เกาะปันหยี จ.พังงา ที่ถูกแคปออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งแต่เรื่องค่าเรือที่เดินทางไปที่เกาะปันหยี ค่าของฝากพวกเครื่องประทับ หอยมุก เปลือกหอยมุก ราคาแพง และยังพบคอมเมนต์ลักษณะขายของแพงทั้งอาหาร ที่พัก จนเป็นกระแสสุดฮอต สร้างความเสียหายให้กับชาวเกาะปันหยีและบรรยากาศการท่องเที่ยวของจังหวัดพังงา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

จวกยับ! พี่จอง-คัลแลน เที่ยวเกาะปันหยีดันเจอบวก ค่าเรือ-ของฝาก แพงหูฉี่

ฟังมุมคนไทยรีวิวเที่ยว ‘เกาะปันหยี’ ชี้ครั้งเดียวพอเหมือนเกาะโจรสลัด

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 23 ก.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดนางยาวาเราะห์ ประสานพันธ์ เจ้าของร้านปันหยีซีฟู้ด กล่าวว่า ขอชี้แจงในเรื่องของอาหารแพงนั้น ทางร้านอาหารส่วนใหญ่ก็จะมีการแจ้งราคาไว้แล้ว ทั้งแบบรายหัวบุฟเฟ่ต์หรือเมนูตามสั่ง ส่วนของปลาแพงนั้นก็อาจจะเกี่ยวกับการสั่งปลาเป็นๆ ที่มีราคาสูงในกระชังขึ้นมาปรุงก็ได้ และยืนยันว่าทางร้านไม่มีการบวกราคาเพิ่มกับลูกค้า ขณะที่ร้านขายของฝากก็เป็นงานฝีมือซึ่งแต่ละร้านก็ตั้งราคากันเอง และมีอยู่หลายร้าน ซึ่งผู้ซื้อผู้ขายต่อรองราคากันตามความพอใจ จึงขอเรียกร้องให้โซเชียลหยุดแชร์การคอมเมนต์ที่สร้างความเสียหายให้กับชาวเกาะปันหยี เพราะหากกระทบต่อการท่องเที่ยวจะสร้างความเสียหายให้กับชาวบ้านบนเกาะที่ต้องพึ่งพาการท่องเที่ยวและการประมง

นายประสิทธิ์ เหมมินทร์ รองนายก อบต.เกาะปันหยี เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้นำในพื้นที่ หลังจากได้ทราบข่าวก็รู้สึกไม่สบายใจ จึงรีบสอบถามข้อมูลทันที ซึ่งพบว่าในเรื่องของค่าเรือ 1,000 บาทนั้น พบว่าใช้บริการที่ท่าเรือบ้านในหงบ เป็นการเหมาเรือไปส่งและไปรับกลับอีกวันหนึ่ง ซึ่งขอบอกว่าเป็นราคาปกติ ซึ่งปกติถ้าตนใช้บริการเหมาเรือก็จะอยู่ในราคาประมาณนี้ ขณะราคากลางของทางราชการนั้นอยู่ที่ 1,000 บาท จึงขอบอกว่าเป็นราคาปกติ ส่วนเรื่องของฝากจากหอยมุกนั้น สอบถามจากคนขายพบว่าคนซื้อเลือก 2 ชิ้น 800 บาทและอยากได้ของแถม จึงเพิ่มสร้อยข้อมืออีก 1 ชิ้น รวมราคา 1,100 บาท และลดเหลือ 1,000 บาท ไม่ได้มีการยัดเยียดขายแต่อย่างใด

นายประสิทธิ์ เผยอีกว่า สำหรับเกาะปันหยีนั้น เรามีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวมากว่า 70 ปี แต่ละวันจะมีการต้อนรับนักท่องเที่ยวเข้ามาหลายพันคนได้ ทุกคนจึงให้ความสำคัญกับการรักษาภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวเสมอมา ในเรื่องของกินต่างๆ ก็ราคาไม่ต่างจากในเมือง เราไม่อยากจะแก้ตัวหรือแก้ต่างกับกระแสดราม่าในโลกโซเชียล ถือเป็นบทเรียนที่พวกเราชาวเกาะปันหยีจะต้องทำอย่างไรต่อไป เราน้อมรับในกระแสข้อวิจารณ์ที่ใช้เหตุผล ส่วนข้อวิจารณ์ที่ไม่เป็นความจริงและกล่าวหามุสลิมเพื่อต้องการเรียกยอดไลก์และสร้างความเสียหายกับพี่น้องชาวไทยมุสลิมบนเกาะปันหยี ทางเราก็อาจจะพิจารณาใช้กฎหมายดำเนินการต่อไป