เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่วัดศรีสุริยวงศาราม วรวิหาร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เข้าถวายสักการะพระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระพรหมมงคลวัชราจารย์ (ไสว วฑฺฒโน) พระอนุชาในสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก (อัมพร อมฺพโร) สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยปัจจุบันท่านเจ้าคุณดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 15 (ธ) เจ้าอาวาสวัดศรีสุริยวงศาราม วรวิหาร โดยมี นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นางพรศรี ตรงศิริ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมถวายสักการะ

“ท่านเจ้าคุณพระพรหมมงคลวัชราจารย์ (ไสว วฑฺฒโน) มีนามเดิมว่า “ไสว ประสัตถพงศ์” เกิดวันที่ 17 ธันวาคม 2474 ที่ตำบลบางป่า อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี เป็นบุตรคนที่ 4 ของนายนับและนางตาล ประสัตถพงศ์ เมื่อเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนวัดพเนินพลู ตำบลบางป่า ได้เข้าบรรพชา ที่วัดตรีญาติ อำเภอเมืองราชบุรี โดยมี พระครูเมธีธรรมานุยุต (เม้ย มันตาสโย) เจ้าอาวาสวัดราฎร์เมธังกร ตำบลบางป่า เป็นพระอุปัชฌาย์ และอุปสมบท ที่วัดศรีสุริยวงศาราม อำเภอเมืองราชบุรี เมื่ออายุครบ 21 ปี พุทธศักราช 2495 โดยมี พระศรีธรรมานุศาสตร์ เป็นพระอุปัชฌาย์” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงต้น

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า พระพรหมมงคลวัชราจารย์ (ไสว วฑฺฒโน) เป็นพระมหาเถระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ดำรงวัตรปฏิบัติอย่างเรียบง่าย เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสุริยวงศาราม รูปที่ 2 มาตั้งแต่ปี 2526 โดยได้พัฒนาวัดศรีสุริยวงศาราม ให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชน จนถึงปัจจุบัน โดยในปี 2562 ได้รับถวายปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาสังคมศาสตร์เพื่อการพัฒนา จากมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา สำหรับในด้านสมณศักดิ์ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์เป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมมงคลวัชราจารย์ ศาสนกิจวิธานโกศล สังฆโสภณญาณปยุต วิสุทธศีลาจารนิวิฐ พิพิธธรรมคุณสุนทร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี จากนั้น นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบโล่รางวัลการประกวดสุนทรพจน์เนื่องในวันชนะศึกบางแก้ว จัดโดยมูลนิธิชนะศึกบางแก้วร่วมกับศูนย์ยุววาทศิลป์วัดพระศรีอารย์ จัดขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย ตลอดจนเพื่อส่งเสริมทักษะการพูดในที่ชุมชนแก่เยาวชน ทั้งยังได้กระตุ้นเตือนให้เยาวชนรำลึกถึงประวัติศาสตร์อันเป็นรากเหง้าของสังคมไทยอีกด้วย เพิ่งได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์ยุววาทศิลป์วัดพระศรีอารย์ ตำบลบ้านเลือก อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี ซึ่งมีนักเรียนที่ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับต่าง ๆ ได้แก่ 1) ระดับประถมศึกษาตอนต้น เด็กหญิงณิชาพัชร์ ชัยงาม โรงเรียนธรรมาธิปไตย 2) ระดับประถมศึกษาตอนปลาย เด็กชายนาวิก  พลเรือง โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย 3) ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เด็กหญิงกวินทรา สอนใจ โรงเรียนวีรศิลป์ และ 4) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เด็กชายวรวิชญ์ หอมสุวรรณ โรงเรียนสารสิทธิ์พิทยาลัย

นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอชื่นชมลูกๆ หลานๆ ผู้เป็นความหวังของสังคมไทยในการร่วมกันน้อมนำพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ในการสืบสานรักษาและต่อยอด พระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการร่วมภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งในปัจจุบันนี้พวกเราทุกคนจะเห็นได้ว่า ประเทศชาติบ้านเมืองสามารถดำรงอยู่ได้อย่างเป็นปึกแผ่น ประชาชนอยู่ร่วมกันด้วยความสมัครสมานสามัคคีร่วมแรงร่วมใจเพื่อผดุงรักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติอันประกอบด้วยสถาบันชาติ สถาบันศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมีศูนย์รวมจิตใจนั่นคือพระมหากษัตริย์ ผู้เป็นหลักชัยของพวกเราทุกคน ซึ่งประวัติศาสตร์ชาติไทยได้ถูกจารึกบันทึกไว้ด้วยหลักฐานที่ชัดเจน ที่พวกเราทุกคนควรที่จะได้ร่วมกันศึกษาและถ่ายทอดบอกเล่าเผยแพร่องค์ความรู้ไปยังเพื่อนนักเรียนทุกคน

“ขอฝากให้ลูก ๆ นักเรียนทุกคนได้ใช้ความสามารถที่เป็นศิลปะด้านการพูดด้วยโวหารต่าง ๆ นำเสนอถ่ายทอดประวัติศาสตร์ความภาคภูมิใจของพวกเราคนไทยในยุคสมัยต่าง ๆ ให้กับเพื่อนนักเรียนในโรงเรียนในช่วงเวลาต่าง ๆ เช่น ช่วงเวลาหลังเคารพธงชาติ ช่วงเวลาพักรับประทานอาหารเที่ยง ช่วงเวลาหลังเลิกเรียน เพื่อที่จะทำให้เพื่อนนักเรียนในโรงเรียนได้รับความรู้ในด้านประวัติศาสตร์ เสริมสร้างพลังความรักชาติ รักแผ่นดิน ความภาคภูมิใจในความเป็นไทย โดยขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ตลอดจนถึงหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ส่งเสริมสนับสนุนและประสานงานร่วมกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ทั้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด รวมถึงโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่งเสริมสนับสนุนให้มีกิจกรรมในลักษณะนี้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้รูปแบบอื่น ๆ เพื่อทำให้เด็ก เยาวชนมีความรู้ที่ถูกต้อง ร่วมกันทำให้ประเทศไทยของพวกเรานั้นมีความมั่นคง ประชาชนมีความสุขอย่างยั่งยืน” นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้าย