นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (12 ต.ค.64) พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ และสะพานชำรุด 11 จังหวัด 25 สายทาง 53 แห่ง โดยทางหลวงในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ได้แก่ 1.ขอนแก่น 2.มหาสารคาม 3.นนทบุรี 4.อ่างทอง 5.พระนครศรีอยุธยา 6.สุพรรณบุรี 7.นครสวรรค์ 8.นครปฐม 9.ระนอง 10.ชุมพร และ 11.นครสวรรค์ การจราจรผ่านไม่ได้ 19 แห่ง ดังนี้
1.ขอนแก่น (ผ่านไม่ได้ 5 แห่ง) ทล.2 ท่าพระ-ขอนแก่น ช่วง กม.ที่ 329+913 (จุดกลับรถใต้สะพานกุดกว้าง) ระดับน้ำสูง 250 ซม., ทล.12 ขอนแก่น-พรหมนิมิตร ช่วง กม.ที่ 565+600 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามลำน้ำพอง) ระดับน้ำสูง 40 ซม., ทล.2065 พล-ลำชี ช่วง กม.ที่ 33+625 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์, ทล.2065 พล-ลำชี ช่วง กม.ที่ 33+785 น้ำกัดเซาะคันทางสไลด์, ทล.2131 บ้านสะอาด-เหล่านางงาม ช่วง กม.ที่ 6+700-7+200 ระดับน้ำสูง 20-30 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.2062 บ้านทุ่ม-มัญจาคีรี กม.0 ไปออกทางหลวงหมายเลข 12 บ้านฝาง-ขอนแก่น กม.540 เข้าเมืองขอนแก่น
2.มหาสารคาม (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.213 มหาสารคาม-หนองขอน ช่วง กม.5+530 (อุโมงค์ท่าขอนยาง) ลำน้ำชีล้นตลิ่ง มีระดับน้ำสูงขึ้น ผนังกั้นน้ำถูกกัดเซาะ ทำการปิดทางลอดอุโมงค์ใต้สะพาน 3.นนทบุรี (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 16+950 ระดับน้ำสูง 25-30 ซม. ใช้จุดกลับรถต่างระดับบางใหญ่ที่ กม.18+500 แทน, ทล.302 สะพานพระนั่งเกล้า-ต่างระดับบางใหญ่ ช่วง กม.ที่ 17+000 ระดับน้ำสูง 25-30 ซม. ใช้จุดกลับรถใต้สะพานคลองบางไผ่ที่ กม.16+600 แทน
4.อ่างทอง (ผ่านไม่ได้ 4 แห่ง) ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 32+607 (จุดกลับรถคลองกะท่อ) ระดับน้ำสูง 150 ซม., ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 33+200 (จุดกลับรถใต้ท่อ Box Cul.) ระดับน้ำสูง 90 ซม., ทล.32 นครหลวง-อ่างทอง ช่วง กม.ที่ 39+843 (จุดกลับรถวัดดอกไม้) ระดับน้ำสูง 10 ซม., ทล.33 นาคู-ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 36+000-36+200 (สี่แยกไฟแดงป่าโมก) ระดับน้ำสูง 20 ซม.
5.พระนครศรีอยุธยา (ผ่านไม่ได้ 3 แห่ง) ทล.347 บางกระสั้น-บางปะหัน ช่วง กม.ที่ 40+860 (จุดกลับรถใต้สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา) ระดับน้ำสูง 45 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน, ทล. 3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 10+940 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 180 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน, ทล. 3263 อยุธยา-ไผ่กองดิน ช่วง กม.ที่ 11+100 (จุดกลับรถใต้สะพานสีกุก) ระดับน้ำสูง 180 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน
6.สุพรรณบุรี (ผ่านไม่ได้ 2 แห่ง) ทล.33 สุพรรณบุรี-นาคู ช่วง กม.ที่ 9+886 (สะพานคลองทับน้ำ) ระดับน้ำสูง 80 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน, ทล.340 สาลี-สุพรรณบุรี กม.ที่ 59+674 (สะพานศาลเจ้าแม่ทับทิม) ระดับน้ำสูง 130 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน 7.นครสวรรค์ (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล.1 บ้านหว้า-วังไผ่ ช่วง กม.ที่ 339+600 (จุดกลับรถใต้สะพานเดชาติวงศ์) ระดับน้ำสูง 25 ซม. ใช้ทางกลับรถข้างหน้าแทน และ 8.ตราด (ผ่านไม่ได้ 1 แห่ง) ทล. 3494 ท่าประดู่-ถางเกลือ ช่วง กม.ที่ 18+490-18+570 ระดับน้ำสูง 80 ซม.
ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดทั่วประเทศ เตรียมความพร้อมในการอำนวยความสะดวก และปลอดภัย ตลอดจนป้องกันเหตุแก่ประชาชน และผู้ใช้รถในช่วงฤดูฝนนี้ โดยให้ติดตามเฝ้าระวังการเกิดอุทกภัย ติดตามการเตือนภัยของกรมอุตุนิยมวิทยา และศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอย่างใกล้ชิด ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ขอให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางหลวงเดินทางด้วยความระมัดระวังเพื่อความปลอดภัย
พร้อมปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชม.) สามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1