จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความว่า “โรงเรียนแห่งหนึ่งจัดกิจกรรมให้เด็กแห่เทียนเข้าพรรษา มีครูคนหนึ่งเมาตั้งแต่ถึงวัดไม่ทราบว่าไปดื่มที่ไหนมา ขากลับนักเรียนขึ้นหลังรถกระบะเพื่อที่จะกลับไปโรงเรียน โดยมีครูคนที่เมาเป็นผู้ขับ จนเกิดเหตุการณ์รถแหกโค้งจนคว่ำ มีเด็กบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก” หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป มีคนเข้ามาแชร์และแสดงความเห็นจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับกลุ่มนักเรียนของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในเขตพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์

โดยนักเรียนคนที่โพสต์ยังคอมเมนต์ระบุอีกว่า ครูคนขับรถแทนที่จะรีบมาดูนักเรียนที่บาดเจ็บ แต่กลับนั่งอยู่หน้ารถดูสถานการณ์ นอกจากนี้เจ้าของโพสต์ยังระบุอีกว่า ครูหลายคนทักมาบอกให้เธอลบโพสต์ดังกล่าวออกด้วย ขณะที่ชาวเน็ตหลายคนต่างเข้ามาแสดงความเห็น ขอให้นักเรียนปลอดภัยทุกคน และขอให้เอาผิดครูคนขับให้ถึงที่สุด

ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ก.ค. ทางด้านกู้ภัยในพื้นที่ ก็ได้โพสต์ข้อความระบุถึงอุบัติเหตุในครั้งนี้ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 19 ก.ค. 67 เวลา 14.50 น. มีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะเสียหลักพลิกคว่ำลงข้างทาง ถนนเส้นบ้านจบก-คล็อง บริเวณโค้ง หมู่ 5 ต.โคกยาง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ อาสาฯ สมาคมวีอาร์กู้ชีพสุรินทร์จุดอำเภอปราสาท (วัดสิริราษฎร์บำรุง) ออกตรวจสอบเหตุร่วมกับกู้ชีพ อบต.โคกยาง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 17 ราย รู้สึกตัวดีทั้งหมด และได้ขอสนับสนุนรถแอดวานซ์ รพ.ปราสาท รถกู้ชีพ อบต.เชื้อเพลิง รถกู้ชีพ อบต.กังแอน มาสนับสนุนที่เกิดเหตุและเคลื่อนย้ายผู้บาดเจ็บนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลปราสาทต่อไป พร้อมจัดลูกข่ายวีอาร์ช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทมอ มาสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุต่อไป ส่วนจำนวนคนเจ็บมีนักเรียน เจ็บ 16 ราย และครูคนขับกระบะ 1 ราย รวมทั้งหมด 17 คน แบ่งเป็น สีแดง 2 ราย สีเหลือง 3 ราย และสีเขียว 12 ราย

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ถนนบริเวณโค้งบ้านจบก ต.โคกบาง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ พร้อม นายก อบต.โคกยาง, ผอ.โรงเรียนโคกยางวิทยา, ผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทน ศปถ.จังหวัด ลงตรวจที่เกิดเหตุ โดยเส้นทางถนนนั้นเป็นช่วงโค้งหักศอกเหมือนรูปตัวเอส พร้อมกันนี้ร่วมประชุมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาของถนนเส้นดังกล่าว จากแหล่งข่าวแจ้งว่า นักเรียนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 16 คน คือ ครูคนขับกระบะ 1 คน

โดยนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บ 15 ราย ได้ออกจากโรงพยาบาลปราสาทแล้ว ก็ยังเหลืออีก 1 คน ที่ยังคงรักษาตัวอยู่ ส่วนนายประเสริฐศักดิ์ บุญทน อายุ 37 ปี ครูโรงเรียนโคกยางวิทยาคม คนขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บที่ต้นคอและหลัง ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเช่นเดียวกัน

นายอนัตชัย ชวฤทธิ์เดชา ผอ.โรงเรียนโคกยางวิทยา เปิดเผยว่า วานนี้ทางโรงเรียนโคกยางวิทยาคม ได้จัดกิจกรรมเข้าพรรษาที่วัดสามราษ ต.โคกยาง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งตนไม่อยู่ เนื่องจากต้องไปประชุมสัมมนาที่โรงเรียนสนม จ.สุรินทร์ โดยทางโรงเรียนจะใช้รถรับส่งนักเรียน 3 คัน มีนักเรียนทั้งหมด จำนวน 450 คน ไปกลับ 2 รอบ ตนจึงได้สอบถามคุณครูว่าทำไมครูประเสริฐศักดิ์ จึงได้มารับส่งนักเรียนด้วย ซึ่งจริงๆ แล้ว ครูประเสริฐศักดิ์ ผู้ขับรถคันเกิดเหตุ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรับส่งนักเรียนเลย เพียงแต่วันนั้น ครูคนขับมีหน้าที่เพียงนำน้ำชงมาเลี้ยงที่โรงทานเท่านั้น แต่อยู่ดีๆ ก็เรียกเด็กนักเรียนขึ้นรถ รับอาสาจะไปส่งเด็กนักเรียนเอง

โดยครูประเสริฐศักดิ์ ได้ย้ายมาใหม่ได้ 2-3 เดือน และยังไม่ชำนาญเส้นทางนี้ จึงได้เกิดอุบัติเหตขึ้น โชคยังดีที่เหตุครั้งนี้ไม่มีนักเรียนคนไหนบาดเจ็บหนักหรือเสียชีวิต มีเพียงรอยถลอกตามร่างกาย และปวดตามแขนขาและหลังเท่านั้น ทางคณะครูทุกคนไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น คุณครูทุกคนเสียใจมากกับเหตุการณ์ในครั้ง ส่วนเรื่องตามกระแสโซเชียล ที่แสดงความคิดเห็นกันว่า ครูคนดังกล่าวเมาแล้วมาขับรถนั้นไหม ทางตนไม่ทราบว่าเมาหรือไม่ เพราะวันนั้นตนไม่อยู่ แต่ทางตนก็ได้ทำเรื่องไปยังเขตการศึกษาและตั้งคณะกรรมการสอบครูคนดังกล่าวอีกด้วย

ด้านผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนนั้นตนเห็นรถคันดังกล่าวขับมาอย่างเร็วมาก โดยมีนักเรียนนั่งอยู่เต็มท้ายกระบะ พอมาถึงที่เกิดเหตุก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของเด็กๆ และเสียงเบรกดังสนั่น จากนั้นรถคันดังกล่าวก็เทเด็กนักเรียนลงทุ่งนา และรถก็หมุนคว่ำ 2-3 ตลบ ตนเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งลงไปช่วยเหลือเด็กๆ

ขณะที่ นางดวงดาว สุตลาวดี อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เล่าว่า ช่วงที่มาถึงที่เกิดเหตุ พบว่าเด็กที่ได้รับบาดเจ็บนอนอยู่ที่ถนน ส่วนครูคนขับรถกระบะมานั้น ตนไม่รู้ว่าเมาหรือเปล่า

จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปโรงพยาบาลปราสาท เพื่อสอบถามนายประเสริฐศักดิ์ ครูคนขับรถกระบะ ซึ่งมีอาการเจ็บปวดที่ต้นคอและช่วงหลัง ได้เล่าว่า วันนั้นตนได้ขับมาถึงที่เกิดเหตุ ตนรู้สึกหน้ามืดและรถเสียหลัก ตนตกใจมากจึงหักพวงมาลัยรถ จนรถพุ่งลงทุ่งนา ยอมรับว่าตอนนั้นรู้สึกหน้ามืดเพราะไม่ได้ทานข้าวมาทั้งวัน พร้อมกับวันก่อนเกิดเหตุ ตนได้ดื่มสังสรรค์มาพอสมควร วันรุ่งขึ้นซึ่งเป็นวันศุกร์ วันที่เกิดเหตุ ตนจึงยังมีอาการแฮงก์และมีกลิ่นเหล้าติดตัว จึงทำให้เด็กๆ เข้าใจผิดว่าตนดื่มเหล้าได้ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ ตนเสียใจมาก อยากฝากขอโทษเด็กนักเรียนทุกคนและผู้ปกครองด้วย ตนขอยืนยันว่า วันที่เกิดเหตุตนไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย

ทางด้าน ร.ต.อ.กิตติพิชญ์ เสนาบูรณ์ พนักงานสอบสวน สภ.ทมอ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ได้ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุ พร้อมกับบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และจะแจ้งให้นักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บมาให้ปากคำให้ข้อเท็จจริง ส่วนคนขับรถกระบะ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรอผลตรวจเลือดจากโรงพยาบาลหาค่าวัดแอลกอฮอล์ว่าเมาหรือไม่นั้นมาประกอบคดี ในเบื้องต้นได้ตั้งข้อหา ขับรถประมาททำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ.