เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นายประคอง แจ้งใจ อายุ 31 ปี เพื่อขอความเป็นธรรมให้แม่ หลังถูกขบวนตำรวจอารักขาคุ้มครองรถหรูของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน เฉี่ยวชนจนแม่ถึงแก่ความตาย เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา พร้อมกับเปิดเผยว่า น้องสาวได้โทรฯ มาบอกว่าผู้เป็นแม่ ประสบอุบัติเหตุรักษาตัวอยู่ที่ รพ.กรุงเทพพัทยา ช่วงนั้นกำลังทำงานอยู่ เวลาประมาณตี 2 จึงลางานและรีบขับรถมาดูแม่ที่โรงพยาบาล โดยหมอแจ้งว่าแม่อยู่ในอาการโคม่า กระดูกซี่โครงหักหลายซี่ และศีรษะได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง สุดท้ายแม่ทนไม่ไหว เสียชีวิตถัดมาอีก 2 วัน

จากนั้นตนจึงได้ประสานงานพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา สาขาย่อยโค้งดงตาล ซึ่งเป็นเจ้าของคดี เพื่อติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ โดยมีการสวดอภิธรรมศพจำนวน 2 คืน ก่อนประชุมเพลิงศพแม่อันเป็นที่รักยิ่ง สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ สร้างความโศกเศร้าให้กับญาติพี่น้องอย่างมาก จากการไปพบตำรวจเจ้าของคดีตั้งแต่เกิดเหตุวันแรก ตำรวจได้แจ้งมาว่า คู่กรณีเป็นรถตู้หรู ยี่ห้อเบนซ์ สีเทา เป็นรถนำเที่ยวของคณะนักท่องเที่ยวชาวจีน พร้อมกับจะโยนให้แม่เป็นฝ่ายผิด ตอนนั้นยอมรับว่าตกใจมาก เพราะยังไม่เห็นหลักฐานอะไรเลย และร้องขอให้เจ้าของคดีช่วยตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

โดยวันที่แม่สิ้นลมหายใจ ตนได้โทรศัพท์ไปหาโชเฟอร์รถตู้ของนักท่องเที่ยวจีนให้ทราบ ซึ่งได้คำตอบว่า “ผมยังไม่สะดวก ตอนนี้ขับรถให้นายอยู่ต่างจังหวัด ส่วนเรื่องคดีขอปัดให้เป็นหน้าที่ทนาย และบริษัทประกันเป็นผู้จัดการ“ เลยเกิดคำถามในใจและข้อสงสัยหลายอย่าง รวมถึงคดีจะเงียบ เพราะมีคนบอกว่าเป็นคณะวีไอพีชาวจีน มีตำรวจแต่งกายในเครื่องแบบขี่รถบิ๊กไบค์คอยนำขบวนอารักขาคุ้มครอง จึงเกิดความกังวลกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงได้ร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนให้ช่วยตรวจสอบเรื่องนี้

ทั้งนี้ จึงอยากฝากไปถึงคู่กรณี ให้ควรมีจิตใต้สำนึก ถ้าตรงกันข้ามกันหากคนประสบอุบัติเหตุเป็นญาติพวกคุณบ้างละ จะรู้สึกยังไง โดยยืนยันไม่เคยได้ยินเสียงของคู่กรณีเอ่ยปาก หรือโทรฯ มาแสดงความเสียใจ ซึ่งไม่เคยติดต่อมาเลย ทุกครั้งที่โทรศัพท์ถามจะอ้างนายตลอด และก็ไม่รู้ว่านายท่านนี้คือใคร และถ้าแม่เป็นฝ่ายผิดก็อยากจะเห็นหลักฐาน โดยตำรวจเจ้าของคดีบอกว่ามีคลิปกล้องติดหน้ารถนำขบวนของตำรวจ สามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ ซึ่งอ้างว่าอยู่ระหว่างการประสานงาน

ต่อมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดอุบัติเหตุ บริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน บ้านหนองพังแค ถนนสุขุมวิท ฝั่งขาเข้าสัตหีบ จ.ชลบุรี ไปพูดคุยกับ พนักงานเติมน้ำมันในวันเกิดเหตุ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุเห็นรถหรูทั้งหมดถอยหลังทั้งขบวน ไปจอดตั้งหลักตรงริมถนนใกล้กับโรงเรียนเมืองพัทยา 7 โดยมีตำรวจปิดท้ายขบวน ลงมาอำนวยความสะดวก ประสานเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ก่อนจะมีผู้ชายจำนวน 2 คน แต่งกายคล้ายบอดี้การ์ด คาดว่าเป็นคนขับรถตู้ชนผู้บาดเจ็บ

ทางด้านหนึ่งในพยานระบุ ขณะเกิดเหตุตอนนั้นไม่เห็นว่าผู้ตายไปเฉี่ยวกับรถในขบวนวีไอพีชาวจีนหรือไม่ แต่เห็นจังหวะที่รถอีกคันหนึ่งที่ขับตามมาชนผู้ตาย จนร่างกระเด็นไปฟาดกับรถในขบวนอีก หลังจากนั้นขบวนรถได้แตกกลุ่มกันออกมา ไปจอดตรงแถวโรงเรียน ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร โดยส่วนใหญ่ผู้โดยสารในขบวนจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน และมีผู้ชายคนขับของแต่ละคันลงมาลักษณะคล้ายบอดี้การ์ด ก่อนที่จะพากันขึ้นรถ ออกจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว

ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดระยะทางประมาณ 300 เมตร พบตำรวจในเครื่องแบบได้ขี่รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่วิ่งเปิดสัญณาณไฟนำขบวนกลุ่มรถหรูวีไอพีนักท่องเที่ยวประมาณ 5-7 คัน และมีตำรวจอีกคันขี่ปิดท้ายขบวน โดยช่วงเกิดเหตุ ภาพของปั๊มน้ำมันไม่มารถบันทึกได้ เนื่องจากอินเทอร์เน็ตมีปัญหา ซึ่งหลังเกิดเหตุ ตำรวจนำขบวนได้พาคณะวีไอพีจอดเข้าที่เลนซ้าย ห่างจากจุดเกิดเหตุพอสมควร ก่อนจะมีผู้ชายจำนวน 2 คน แต่งกายคล้ายบอดี้การ์ด วิ่งย้อนกลับเข้าไปบริเวณสถานที่เกิดเหตุ

ขณะที่กล้องอีกตัวจับภาพเจ้าที่ตำรวจในเครื่องแบบ ได้จอดรถนำขบวนเดินย้อนตามขึ้นไปกับกลุ่มคนขับรถ และบอดี้การ์ด แล้วไม่นานก็เห็นได้ว่า จะมีคณะวีไอพีชาวจีนกลุ่มใหญ่ลงจากรถและเดินอยู่บริเวณนั้น หลังจากนั้นตำรวจขี่รถนำขบวนเดินกลับมาที่รถของตัวเอง โดยมีผู้ชายที่คาดว่าเป็นพวกบอดี้การ์ดจะเดินตามมา ก่อนตำรวจจะขี่ตามปิดท้ายขบวนรถหรูที่เหลือออกจากจุดเกิดเหตุ.