เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 19 ก.ค. พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผบช.สตม. พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1 พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ประธาน นันทกอบกุล รอง ผบก.สส.ภ.1 พ.ต.อ.ชย พานะกิจ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม 1. MR.FREDY ALEXANDER VELASQUEZ RUIZ (นายเฟอร์ดี้ อเล็กซานเดียส) สัญชาติโคลอมเบีย อายุ 52 ปี 2. MR.JHON EDWIN SUAREZ CALDERON (นายจอร์น เอสวิน) สัญชาติโคลอมเบีย อายุ 47 ปี 3. MR.ANDRES FELIPE VELASQUEZ PIRA(นายอัลเดียส ฟิลิปเป้) สัญชาติโคลอมเบีย อายุ 29 ปีและ Mr.Maco Tulio pinzonTorneros (นายมาร์โก ทูริโอ้) สัญชาติโคลอมเบียอายุ 51 ปี พร้อมของกลางอุปกรณ์งัดแงะบ้านเรือนประชาชน ได้แก่ ไขควง คีม เครื่องมือช่าง และทรัพย์สินที่ได้มาจากการลักทรัพย์ 125 รายการ ได้แก่ เงินสด สร้อย แหวนทองคำ นาฬิกา รวมมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท และเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย รถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ใช้ในการก่อเหตุ

พล.ต.ท.จิรสันต์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากมีกลุ่มคนร้ายเป็นชายชาวต่างชาติ 4 คน ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ตามหมู่บ้านจัดสรรในหลายพื้นที่ โดยเมื่อวันที่ 7 ก.ค. 67 ก่อเหตุในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 67 ก่อเหตุในพื้นที่ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 67 ก่อเหตุในพื้นที่ อ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 67 ก่อเหตุในพื้นที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา และเมื่อวันที่ 17 ก.ค. 67 ก่อเหตุในพื้นที่ เขตบางเขน และเขตคันนายาว กรุงเทพ เป็นเหตุให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ทางชุดสืบสวน บก.สส.ภ.1 จึงได้ทำการแกะรอย โดยบูรณาการกำลังกลับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจนพบพฤติกรรมว่าขบวนการนี้จะใช้รถจักรยานยนต์เช่า ขับขี่ไปก่อเหตุมีเป้าหมายเป็นหมู่บ้านจัดสรร และจะก่อเหตุในช่วงเวลาหัวค่ำ ก่อนเจ้าของกลับเข้าบ้าน โดยใช้อุปกรณ์เครื่องมือ งัดเข้าไปลักเอาทรัพย์สินภายในบ้าน ต่อมาชุดสืบสวน ได้แกะรอยจนทราบว่า กลุ่มคนร้าย มาพักอาศัยที่คอนโดชุด ที.เค.แมนชั่นซอยรัตนาธิเบศร์ 22 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี และบริเวณโรงแรมภายในซอยบัวขาว ถนนพัทยาใต้ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงนำกำลังจับกุม

พล.ต.ท.จิรสันต์ กล่าวต่อว่า สอบสวนผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ แต่จากการจับกุมพบของกลางอยู่ในที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตามฝากประชาสัมพันธ์ยังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัย สามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบได้ตลอด 24 ชั่วโมง และขอให้นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรกำชับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ระมัดระวัง และตรวจตราบุคคลเข้าออกที่ไม่ใช่ลูกบ้าน เพื่อเป็นการป้องกันเหตุ และสามารถตรวจสอบว่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้นี้ เป็นของท่านที่ถูกโจรกรรมไปหรือไม่ สามารถตรวจสอบได้ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ

พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ กล่าวว่า จากแนวทางสืบสวนพบว่าคนร้ายได้มาจากประเทศกัมพูชา ก่อนเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติใกล้กับด่านคลองลึก จ.สระแก้ว ซึ่งที่ผ่านมา ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ดำเนินการเฝ้าระวังกลุ่มคนร้ายในสัญชาติที่มีพฤติกรรมในการก่อเหตุในประเทศไทย โดยกรณีนี้พบพิรุธต้องสงสัยว่าคนร้ายมีการเดินทางเข้ามาทั้งหมด 7 คน ซึ่งขณะนี้สามารถจับกุมได้ 4 ราย อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบและติดตามว่ามีความเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุหรือไม่ อย่างไรก็ตาม จากการที่รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวฟรีวีซ่านั้น ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองได้มีการเพิ่มความระมัดระวัง ซึ่งทางสตม.เองมีระบบ Biometrics เป็นระบบตรวจสอบบุคคลเข้าเมืองภายในสนามบินและเฝ้าระวังบุคคลอันตราย ซึ่งในส่วนตรงนี้ไม่น่าห่วง เพราะระบบจะตรวจสอบถึงที่พักของชาวต่างชาติในไทยมีระบบติดตามตัวนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในประเทศ โดยใช้ระบบแจ้งที่พำนักตามมาตรา 38 รวมถึงให้สถานบริการที่พักอาศัยของนักท่องเที่ยวประเภทต่างๆ แจ้งข้อมูลผ่านระบบแดชบอร์ดให้ทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรับทราบ เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการติดตามตัวนักท่องเที่ยวแต่ละคนรวมถึงตรวจสอบประวัติข้อมูลติดตามได้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าวได้มีผู้เสียหายเดินทางมาดูของกลาง พร้อมกับได้นำดอกไม้มาขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถติดตามทรัพย์สินและจับกุมผู้ต้องหาได้

เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น โดยใช้ยานพาหนะ” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางแก้ว ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.