เมื่อวันที่ 19 ก.ค. เรียกได้ว่าเป็นกระทู้ที่น่าสนใจทีเดียว สำหรับชีวิตคู่ เมื่อหญิงสาวรายหนึ่ง ได้เขียนข้อความปรึกษาชาวเน็ตเกี่ยวกับปัญหาชีวิตคู่ว่า

“จะผิดหรือไม่ หากต้องการเลิกกับสามีเพราะทนลำบากไม่ไหว?”

โดยสาวเจ้าของกระทู้เล่าว่า พวกเธอแต่งงานมาได้ 2 ปีและยังไม่มีลูกด้วยกัน ซึ่งก่อนแต่งงาน พวกเธอได้วางแผนอนาคตว่า “จะเปิดร้านอาหารร่วมกัน”

อย่างไรก็ตาม แพลนต้องเลื่อนออกไปเรื่อยๆ เพราะหลังแต่งงาน เธอได้ย้ายมาอยู่กับครอบครัวสามี และต้องช่วยครอบครัวเขาทำสวนทำนา เมื่อเธอเอ่ยถามถึงเรื่องเปิดร้านอาหาร เขาก็บอกแต่ว่า “เอาไว้ก่อน”

เธอรู้สึกเหนื่อยเพราะไม่อยากทำสวน แต่ไม่ทำก็ไม่ได้เพราะอยู่กับพ่อแม่เขา เดี๋ยวจะหาว่าเธอขี้เกียจ มาเกาะลูกชายเขากิน ซึ่งเธอเคยขอไปทำงานข้างนอกแต่ก็ไม่ได้รับอนุญาต เธออยากเลิกกับสามีมาก แต่เขาก็มีข้อดีหลายอย่าง ทั้งขยัน ไม่ติดเพื่อน ไม่สูบบุหรี่ เธอควรตัดสินใจอย่างไรดี

ซึ่งหลังจากที่ได้มีการโพสต์ข้อความดังกล่าวออกไป ส่วนใหญ่เห็นว่าต้องคุยเรื่องนี้กับสามีโดยตรง พร้อมกับคำแนะนำมากมายว่า

-เลิกได้ค่ะ เพราะก่อนแต่งไม่ได้คุยกันว่าต้องมาทำแบบนี้ คนเราเติบโตมาไม่เหมือนกัน การไม่ทำไร่ทำสวนไม่ได้หมายความว่าขี้เกียจ

-เข้าใจเลย ตอนคบกันแรกๆ วางแผนอนาคตไว้อีกแบบ พอนานๆ เข้าทำท่าจะเปลี่ยนแผน สุดท้ายเลยตัดสินใจไม่เอาด้วย คุณคงต้องคุยกับสามีว่าคุณไม่โอเคกับชีวิตแบบนี้ ถ้าต้องอยู่ต่อไปมันฝืนไม่ไหว ดูว่าเขาจะยอมอ่อนให้คุณหรือเปล่า ถ้าเขาไม่ยอม คุณคงต้องเลือกแล้วล่ะ

-การอยู่บ้านแม่สามีแล้วไม่ได้ทำงานนอกบ้านนี่ อึดอัดมาก ถ้ายังรักสามีอยู่แนะนำให้ออกไปหางานทำเองให้ได้ค่ะ ไปลองสมัครไว้ก่อน พอได้งานค่อยบอกที่บ้านก็ได้ค่ะ หักดิบไปเลย แฟนบ่นก็พูดเรื่องสัญญานี่เลยค่ะ ถ้าได้ทนแต่แรก ก็ทนตลอดไปค่ะ  เอาใจช่วยนะคะ

-ที่วางแผนไว้ มันก็แค่คำพูดประดิษฐ์ ให้คุณตายใจมากกว่า คิดว่าเขาวางแผนให้คุณมาช่วยที่บ้านมากกว่า แบบนี้มีเยอะ เพื่อนผมก็เจอ ทำงานบริษัทฯ เป็นระดับหัวหน้าด้วย เมียให้กลับมาทำกิจการที่บ้าน (พ่อตา) บอกจะมีเงินเดือนให้ จะได้อยู่ใกล้พ่อ-แม่ แก่แล้ว จะได้มีคนช่วยเลี้ยงหลานด้วย

ผลปรากฏว่าเหมือนโดนหลอก ตื่นตั้งแต่ 4 ทำงานทั้งวัน วันหยุดก็ไม่ได้หยุด เงินเดือนให้บ้าง ไม่ให้บ้าง ให้ก็น้อย สุดท้ายทนไม่ไหว บอกเมียขอกลับมาทำงานกทม.เหมือนเดิม