เมื่อวันที่ 17 ก.ค. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ตนได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบถึงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้กำชับให้กระทรวงต่างๆ ได้เร่งดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองต่างๆ โดยตนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องมีการจัดทำกฎหมายลำดับรองให้เร่งดำเนินการจัดทำให้แล้วเสร็จ เพื่อจะมีได้มีผลบังคับใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ตนยังได้ติดตามการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2567 ซึ่งพบว่า การดำเนินการจัดสรรงบประมาณเป็นที่น่าพอใจ มีการจัดทำโครงการเพื่อสร้างงบผูกพันได้รวดเร็ว และเกิดประโยชน์ต่อผู้เรียนทุกโครงการ

รมว.ศธ. กล่าวต่อไปว่า ส่วนงบประมาณปี 2568 ที่ ศธ. ได้รับการจัดสรรจำนวน 340,000 ล้านบาท แต่ในจำนวนนี้เราโดนตัดงบประมาณออกไปอยู่ในหมวดโครงการเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา anywhere anytime ด้วยการสร้างแพลตฟอร์การเรียนรู้ให้แก่ผู้เรียนและครู ซึ่ง ศธ. ได้จัดทำคำของบประมาณในส่วนนี้ไป จำนวน 7,644,068,100 บาท แต่ได้รับการจัดสรรเพียง 3,395,466,600 บาท โดยจำนวนงบประมาณในส่วนนี้ ศธ. ที่ถูกตัดออกไปจำนวน 4,148,601,500 บาท ดังนั้นขณะนี้ ศธ. กำลังจัดคำขอแปรญัตติงบประมาณเพิ่มเติมเข้าไปใหม่แล้วประมาณ 10,000 ล้านบาท เพื่อเข้าสู่ชั้นพิจารณาของคณะกรรมาธิการ เพราะในการจัดทำรายละเอียดคำของบประมาณนั้น อาจทำให้มีการสื่อสารคลาดเคลื่อน เพราะการจัดทำแพลตฟอร์มการเรียนรู้นั้นจะดำเนินการตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงมัธยมศึกษา

“สำหรับการขับเคลื่อนการยกระดับโครงการประเมินผลนักเรียระดับนานาชาติ หรือ พิซา นั้น สพฐ. ได้มีจัดทำหลักสูตร Workshop ระยะสั้น Gamification พิซา : ปรับข้อสอบพิซา สู่โลกดิจิทัลด้วยเกม เป็นเวลา 6 ชั่วโมง เพื่อพัฒนาครูผู้สอนให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับข้อสอบพิซา และรูปแบบข้อสอบ digital platform ที่นำเกมมาประยุกต์ใช้ (Gamification) เป็นเครื่องมือและเทคนิคในการจัดสอบและวิเคราะห์ผล ขณะเดียวกันได้ขยายผลสร้างการรับรู้พิซาไปยังผู้บริหารสถานศึกษาใหม่ 4 ภูมิภาค การพัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาพัฒนาภาคเหนือ ก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสถานศึกษาและผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน 4,423 คน ในรูปแบบออนไลน์ด้วย” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว