เมื่อวันที่ 16 ก.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานแห่งชาติ ที่ปรึกษาชุดเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษพิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) ร่วมกับนายพนัสกร โพธิบัณฑิต ผอ.ส่วนยุทธการด้านการป้องกันและปราบปราม เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพญาเสือ สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี), สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์, สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าอุบลฯ, อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร, อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ, สัตวแพทย์กรมอุทยานฯ, ด่านตรวจสัตว์ป่าช่องจอม ร่วมปฏิบัติภารกิจจับกุมกลุ่มลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ ในพื้นที่ จ.สุรินทร์

สืบเนื่องจากนายชัยวัฒน์ ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.ประทีป ชูศรี รอง ผกก.สส.สภ.ดม ว่าในพื้นที่ จ.สุรินทร์ มีการลักลอบค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ จึงได้ให้สายลับทำการติดต่อซื้อขายสัตว์ป่ากับกลุ่มผู้ค้า โดยได้นัดหมายซื้อ-ขาย ลูกเสือโคร่ง จำนวน 6 ตัว และงาช้าง ในวันที่ 15 ก.ค. บริเวณวงเวียนบ้านลันแต้ ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่หน่วยพญาเสือ จึงได้วางแผนและกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ เพื่อดักซุ่มจับกุมผู้กระทำผิด ซึ่งมีหน่วยงานที่ร่วมปฏิบัติภารกิจประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดม อ.บัวเชด เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปทส. ชุดปฏิบัติการข่าว ประจำ จ.สุรินทร์  กระทั่งเวลาประมาณ 18.50 น. สายลับผู้ติดต่อซื้อขายสัตว์ป่า ได้ขับรถยนต์ไปจอดยังจุดนัดพบบริเวณวงเวียนบ้านลันแต้ ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์

ต่อมาในเวลาประมาณ 18.55 น. พบรถยนต์ต้องสงสัย เป็นรถเก๋งสีดำ ทะเบียน กรุงเทพมหานคร จอดรถหลังรถยนต์สายลับ และมีการโทรฯ แจ้งยืนยัน สายลับจึงได้ลงมาตรวจเช็กของ เมื่อพบว่ามีของจริง สายลับจึงส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่แสดงตัวเข้าจับกุม พบผู้ต้องหา จำนวน 2 คน ภายในรถเป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน ทราบชื่อ 1. นายกรฤทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 51 ปี  2.นางมนัส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี  เป็นชาว จ.สุรินทร์ 

ตรวจสอบของกลางพบ ดังนี้  1. ลูกเสือโคร่ง (Panthera tigris) จำนวน 2 ตัว เพศผู้ 1 ตัว เพศเมีย 1 ตัว อายุประมาณ  2-3 เดือน สภาพลูกเสือโคร่งมีอาการท้องเสีย ขาดน้ำ อิดโรย และซูบผอม  2. งาช้างเอเชีย  จำนวน 4 กิ่ง น้ำหนักรวม 48 กก. งาช้างแอฟริกา จำนวน 26 ท่อน น้ำหนักรวม 49.8 กก. และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากงาช้าง 19 รายการ น้ำหนักรวม 897 กรัม มูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 3 ล้านบาท

เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหา ว่าเป็นการกระทำความผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ ​1. ฐาน “ร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 17 และมาตรา 92 แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562” ​2. ฐาน “ร่วมกันค้าซากสัตว์ป่าคุ้มครอง โดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 29 และมาตรา 89 วรรคหนึ่ง แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562” 

​3. มาตรา 116 บรรดากฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ที่ใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่ พ.ร.บ. นี้ใช้บังคับให้ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปเท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับ พ.ร.บ. นี้ ทั้งนี้ จนกว่าจะมีกฎกระทรวง ระเบียบ ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตาม พ.ร.บ. นี้ใช้บังคับ

​4. ฐาน “ร่วมกันค้างาช้างโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามมาตรา 4 ประกอบมาตรา 13 ตาม พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ. 2558 ​5. ฐาน “ร่วมกันครอบครองงาช้างโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตามมาตรา 6 ประกอบมาตรา 14 และมาตรา 16 ตาม พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ. 2558   พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ทำบันทึกตรวจยึด จับกุม นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดม โดยลูกเสือโคร่ง ส่งมอบให้สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ดูแลต่อไป

นายอรรถพล กล่าวว่า ได้สั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัดทุกแห่ง ให้เข้าตรวจสอบสวนเสือทุกสวน หากพบการกระทำที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขการอนุญาต ให้มีการควบคุมการเพิ่มจำนวนเสืออย่างเข้มงวด โดยเฉพาะกรณีที่มีพฤติกรรมลักลอบนำเสือไปขาย ให้พิจารณาใช้อำนาจหน้าที่ในการพักและเพิกถอนใบอนุญาต ไปถึงการบังคับใช้กฎหมายทันที.