เมื่อวันที่ 16 ก.ค. นายจักรินทร์ ชุมจินดา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า มอบหมายให้เจ้าหน้าที่กลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นที่กรณีได้รับแจ้งจากศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ (Corruption Deterrence Center : CDC) ณ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เพื่อติดตามประเด็นจากสื่อ Social Media ประเด็น “เขียนโครงการ 100 คน มาจริง 30 คน เบิกครบ งบ สปสช.”
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่สังเกตการณ์เพื่อรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงตามประเด็น โดยสรุป รพ.สต.บ้านจันพอ ชี้แจงว่า โครงการดังกล่าว ชื่อโครงการส่งเสริมการแพทย์แผนไทย (ยาประคบเข่าเสื่อม) ต.ดอนตะโก อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ปีงบประมาณ 2567 ซึ่งเป็น 1 ใน 8 โครงการ ที่ รพ.สต.บ้านจันพอ ได้เขียนโครงการไปเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุนหลักประกันสุขภาพองค์การบริหารส่วนตำบลดอนตะโก มีกลุ่มเป้าหมายทั้งสิ้น 100 คน ประกอบด้วย ผู้สูงอายุ 70 คน อาสาสมัครประจำครอบครัว (อสค.) 10 คน จิตอาสา 20 คน งบประมาณโครงการทั้งสิ้น 23,600 บาท (สองหมื่นสามพันหกร้อยบาทถ้วน)
ส่วนตามประเด็นที่ว่า “เขียนโครงการ 100 คน มาจริง 30 คน เบิกครบ งบ สปสช.” รพ.สต.บ้านจันพอ ชี้แจงว่า ในขั้นตอนการดำเนินการนั้น รพ.สต.บ้านจันพอ ได้ดำเนินโครงการโดยการทยอยจัดกิจกรรม 3 ครั้ง เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ จึงไม่สามารถนัดกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมพร้อมกันทั้งหมดในวันจัดกิจกรรมหลักได้ จึงทยอยจัดกิจกรรมให้ผู้สูงอายุเป็นกลุ่มย่อย 2 ครั้ง และดำเนินการจัดกิจกรรมในวันที่กำหนด จำนวน 1 ครั้ง โดยขอความอนุเคราะห์วิทยากรให้เป็นวิทยากรในวันจัดกิจกรรมย่อยและในวันจัดกิจกรรมหลักด้วย ทั้งนี้ รพ.สต.บ้านจันพอ ได้ยืนยันว่ามีผู้เข้าร่วมครบถ้วนตามจำนวนที่กำหนดในโครงการ
สำหรับ การเบิกจ่ายงบฯ ในโครงการ นั้น รพ.สต.บ้านจันพอ ชี้แจงว่า ดำเนินการเบิกจ่ายครบถ้วนตามงบประมาณที่กำหนด โดยได้จัดเลี้ยงอาหารและอาหารว่างและเครื่องดื่มให้ผู้เข้าร่วมในวันจัดกิจกรรมย่อยและในวันจัดกิจกรรมหลักที่กำหนดไว้ในโครงการ ครบถ้วนทั้ง 100 คน ในส่วนของค่าวัสดุจัดอบรมก็ได้ดำเนินการจัดซื้อตามระเบียบ ทั้งนี้ ดำเนินการเบิกจ่ายค่าวิทยากรตามจำนวนที่กำหนดไว้ในโครงการเฉพาะวันจัดกิจกรรมหลักเท่านั้น
“จากการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ผู้สังเกตการณ์ จึงตั้งข้อสังเกตและให้ข้อเสนอแนะประเด็นการทยอยจัดกิจกรรม จะต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยต้องระบุไว้ในการขออนุมัติดำเนินโครงการให้ชัดเจน และควรชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องให้สาธารณชนรับทราบด้วย” นายจักรินทร์ กล่าว.
