รัฐบาลได้วางหมุดหมายยกระดับประเทศไทยให้เป็น “Smart City Hub” ของอาเซียน โดย “ Smart City” หรือ “เมืองอัจฉริยะ” เป็นเมืองที่ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยและชาญฉลาด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการและการบริหารจัดการเมืองในทุกด้าน ซึ่งปัจจัยที่สำคัญที่สุด คือ “บุคลากร” ที่จะนำเทคโนโลยีไปประยุกต์ใช้และวางแผนพัฒนาเมืองให้เป็น “ Smart City” ตามบริบทของแต่ละพื้นที่ แต่ประเทศไทยยังขาด “บุคลากร” ที่มีทักษะเฉพาะด้านในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะอยู่มาก

“แดสสอลท์ ซิสเต็มส์” ผู้นำด้านการสร้างประสบการณ์ 3DEXPERIENCE ที่นำเสนอโลกเสมือนจริงแก่ผู้คนและองค์กรธุรกิจ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MoU) ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า และมหาวิทยาลัยศิลปากร (มศก.) เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศที่สนับสนุนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และบุคลากรแห่งอนาคตในประเทศไทยอย่างครบวงจร รองรับเมืองอัจฉริยะที่กำลังขยายตัว ถือเป็นโครงการแรกในภูมิภาคอาเซียน

ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ประกาศเมืองอัจฉริยะ ไปแล้ว 36 พื้นที่ ในปีนี้มีเป้าหมายเพิ่มอีก 12 พื้นที่ โดยได้สนับสนุนให้เมืองที่ได้รับการประกาศได้รับสิทธิพิเศษทาง บีโอไอ ส่วนบริษัทเอกชนที่ประยุกต์ใช้ไทยแลนด์ ดิจิทัล แคตตาล็อก สามารถได้รับการลดหย่อนภาษีด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันประเทศไทยมีความพร้อมด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลรอบด้าน แต่สิ่งที่ต้องพัฒนาควบคู่ไปด้วยคือ Smart People ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ที่ยังขาดแคลนอยู่มาก

“ทักษะสำคัญสำหรับคนที่พัฒนาเมืองอัจริยะต้องมีความเข้าใจเรื่องการวางผังเมือง และวิทยาศาสตร์ข้อมูล ที่นำข้อมูลไปบริหารเมืองให้เกิดประโยชน์ โดยแต่ละเมืองควรจะมีบุคลากรที่เชี่ยวชาญอย่างน้อย 2 คน ที่ทำงาน ร่วมกับนายกเทศมนตรีเมืองต่าง ๆ เพื่อให้เกิดเมืองอัจฉริยะเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประเทศไทยเป็น Smart City Hub”

รองศาสตราจารย์ ดร.สุชาดา พิริยะประสาธน์ รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาคุณภาพองค์กร ม.ศิลปากร กล่าวว่า การสนับสนุนของดีป้าและแดสสอลท์ ซิสเต็มส์ ทำให้ ม.ศิลปากรพร้อมเป็นศูนย์กลางการพัฒนาทักษะดิจิทัลที่จำเป็นสำหรับพัฒนาเมืองอัจฉริยะ โดยจะใช้ความเชี่ยวชาญด้านการวางผังเมือง และการออกแบบสภาพแวดล้อม เปิดให้นักศึกษาระดับปริญญาบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัยจากทุกคณะ รวมถึงบุคคลภายนอกที่สนใจ เข้าร่วมเรียนในหลักสูตร ‘3DEXPERIENCE Smart City Industrial Training Center’ และหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง โดยตั้งเป้าหมายพัฒนาบุคลากร Smart City มากกว่า 500 ราย ภายใน 3 ปีนับจากนี้ ซึ่งผู้ผ่านการอบรมจะได้ Certificate ด้วย

ความร่วมมือกันของทั้งสามหน่วยงานในครั้งนี้ แบ่งการดำเนินการออกเป็น 4 ระยะ เริ่มจากการเปิดตัวศูนย์ฝึกอบรม Industry Training Center ในเดือนกันยายน ปีนี้ โดยศูนย์ฝึกอบรมนี้จะเปิดสอนหลักสูตรการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ซึ่งเป็นหลักสูตรรับรองร่วม โดยมหาวิทยาลัยศิลปากร ดีป้า และแดสสอลท์ ซิสเต็มส์ ต่อด้วยศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ (Incubation Center) สำหรับการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญ ระหว่างหน่วยงาน ธุรกิจ และสตาร์ทอัพ ระยะที่สามจะพัฒนาเป็นศูนย์วิจัยด้านการวางผังเมืองและบริการให้คำปรึกษาด้านการออกแบบ โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และระยะที่ 4 เปิดเป็นโชว์รูมดิจิทัลเพื่อดึงดูดการลงทุน พร้อมผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางเมืองอัจฉริยะ สร้างงานและยกระดับเศรษฐกิจดิจิทัลให้เติบโต

ด้าน มร. แซมซัน เคา รองประธานบริหารประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แดสสอลท์ ซิสเต็มส์ กล่าวว่า บริษัทมีประสบการณ์ร่วมพัฒนาเมืองอัจฉริยะในหลายเมืองทั่วโลก ซึ่งได้เริ่มพัฒนาแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE (3DX) ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2555 เพื่อใช้เป็นแพลตฟอร์มสร้างแบบจำลองเมืองเสมือนจริง และเราเริ่มโครงการแรกที่สิงคโปร์ เนื่องจากในเวลานั้นรัฐบาลสิงคโปร์ต้องการสร้างแบบจำลองที่รวบรวมองค์ประกอบต่าง ๆ ของเมืองไว้ ตั้งแต่เสาไฟ ถนนหนทาง ไปจนถึงอาคารต่าง ๆ เพื่อจำลองดูทิศทางลม เงาของอาคาร อันนำไปสู่การ ออกแบบเมืองที่ประหยัดพลังงาน ซึ่งความร่วมมือกับสิงคโปร์ นำไปสู่การพัฒนาโซลูชันเมืองอัจฉริยะ (Smart City) โดย Dassault Systèmes นำไปใช้ต่อยอดกับเมืองต่าง ๆ มากมาย

“การร่วมลงนาม MoU ครั้งนี้ ได้ใช้โครงการ 3DEXPERIENCE Industry Training Center มาเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ด้านเมืองอัจฉริยะผ่านแพลตฟอร์ม 3DEXPERIENCE เป็นแกนหลัก ผสานรวมเทคโนโลยีล้ำสมัยเช่น AI, Internet of Everything (IoE) และ Virtual Twin เพื่อสร้างบุคลากรที่มีทักษะตรงตามความต้องการของธุรกิจและประเทศ โดยมีเป้าหมายการผลิตบุคลากรที่มีทักษะพร้อมใช้งานทันที ซึ่งผู้เข้าร่วมอบรมจะได้ฝึกฝนการใช้เทคโนโลยี 3D เครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง การออกแบบแบบเสมือนจริง พัฒนาทักษะที่จำเป็นในการออกแบบเมืองที่ยั่งยืนและประหยัดพลังงาน เพื่อขับเคลื่อนโครงการเมืองอัจฉริยะได้ในอนาคต

เรามั่นใจว่า หลักสูตรนี้จะเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากประชากรเขตเมืองกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เมืองต่าง ๆ จำเป็นต้องวางแผนให้รอบคอบ โดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิทัล เป็นแกนหลักสำคัญในการผสมผสานทั้งโครงการพัฒนาพื้นที่ใหม่ ๆ และพื้นที่เดิม

“เราตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยศิลปากรและดีป้า ในการพัฒนาหลักสูตรนี้ เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกที่ Dassault Systèmes ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในเอเชีย เพื่อพัฒนาหลักสูตรการศึกษาด้านเมืองอัจฉริยะขึ้นโดยเฉพาะ” มร. แซมซัน เคา กล่าว