วันที่ 15 ก.ค. รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ชุดใหญ่ ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เป็นไปด้วยความเคร่งเครียด มีการยกมือทักท้วงและสอบถามรายละเอียดของหน่วยงานที่เข้าร่วมประชุมอยู่เป็นระยะๆ และครั้งนี้เป็นการประชุมที่ยาวนานกว่าปกติ

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลังประชุมฯ แต่ไม่ให้สัมภาษณ์ เพียงแค่โบกมือปฏิเสธไม่ตอบคำถามสื่อ และรีบเดินขึ้นรถนั่งคู่กับคนขับทันที

นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยถึงวงเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ล่าสุดรัฐบาลไม่ได้มีการใช้วงเงินตามมาตรา 28 ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในวงเงิน 1.723 แสนล้านบาทแล้ว ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เหตุผลว่าวงเงินตามมาตรา 28 ที่รัฐบาลจะใช้นั้นเต็มเพดาน หรือว่ารัฐบาลจัดสรรงบประมาณคืนให้กับ ธ.ก.ส. น้อยจนเกินไป เพราะว่างบประมาณปี 68 รัฐบาลมีการจัดสรรงบประมาณในการจ่ายคืนหนี้ตามมาตรา 28 อยู่พอสมควร และในวันที่รัฐบาลประเมินว่าจะใช้เงินของ ธ.ก.ส. ในโครงการนี้ยังมีพื้นที่กว่า 2 แสนล้านบาท การไม่ใช้เงิน ธ.ก.ส. จึงไม่ใช่เหตุผลในเรื่องนี้

“การไม่ใช้วงเงินของ ธ.ก.ส. เป็นเหตุผลในเรื่องของข้อกฎหมาย ที่หากมีการใช้เงิน ธ.ก.ส. ต้องมีการตีความข้อกฎหมาย และเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย ถ้ารัฐบาลจะใช้ก็ใช้ได้ แต่รัฐบาลตัดสินใจจะไม่ใช้ เพราะเหตุผลนี้มากกว่า” นายเฉลิมพล กล่าว

เมื่อถามว่าที่รัฐบาลระบุว่าจะใช้การบริหารจัดการงบประมาณปี 68 มาทำงบฯ ดิจิทัลวอลเล็ตอีก 1.323 แสนล้านบาท นั้นจะบริหารจัดการอย่างไร จะมีการออก พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมในปี 68 อีกหรือไม่ นายเฉลิมพล ระบุว่า ในเรื่องนี้ต้องขึ้นกับสถานการณ์ เพราะในแต่ละปีงบประมาณรัฐบาลมีการบริหารจัดการงบประมาณอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ต้องดูคือต้องไม่ให้กระทบกับกฎหมายเรื่องของวินัยการเงินการคลัง และเรื่องของ พ.ร.บ.บริหารหนี้สาธารณะ 

เมื่อในเรื่องของการจัดสรรงบกลางฯ ปี 67 มาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 4.3 หมื่นล้านบาท จะมีงบประมาณเพียงพอในการรองรับวิกฤติหรือไม่นั้น ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ระบุว่า งบประมาณนั้นเหลือเพียงพอที่จะใช้ได้ เพราะเหลืออีกเพียงไม่กี่เดือนก็จะสิ้นสุดปีงบประมาณ และยังไม่ได้บอกว่าเงินจำนวนดังกล่าวมาจากงบกลางฯ ทั้งหมด แต่มาจากการบริหารจัดการงบประมาณในปี 67 เช่นกัน ส่วนนายจักรพงษ์ แสงมณี รมต.ประจำสำนักนายกฯ เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะนำงบประมาณรายจ่ายปี 67 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 4.3 หมื่นล้านบาท มาใช้ทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น เป็นการให้สัมภาษณ์เชิงนโยบายเท่านั้น