จากกรณี น.ส.อ้อ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี เข้าขอความช่วยเหลือจากผู้สื่อข่าว หลังถูกพ่อแม่บังคับให้ไปรักษาโรคมะเร็งที่สำนักฤาษีแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 6 ต.ตะกุกเหนือ อ.วิภาวดี จ.สุราษฎร์ธานี หลายคนเรียกว่า สำนักพ่อปู่ฤาษี ซึ่งมีสองสามีภรรยาเป็นเจ้าสำนัก เปิดรักษาโรค ดูดวง และทำพิธีกรรมต่างๆ โดย น.ส.อ้อ พ่อแม่บังคับพาไปที่สำนักดังกล่าว อ้างว่าตรวจพบเป็นมะเร็ง สองสามีภรรยาจึงใช้วิธีการรักษาโดยให้ถอดเสื้อเปลือยท่อนบนและใช้มือลูบไล้หลายครั้ง แต่เมื่อตัดสินใจไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี กลับไม่พบว่าตนเองเป็นโรคมะเร็งตามที่หมอฤาษีกล่าวอ้าง

ต่อมา น.ส.อ้อ ทนไม่ไหวขอความช่วยเหลือจากนักข่าวก็ยังถูกพ่อแม่ตามมารับตัวกลับไปยังพื้นที่ อ.วิภาวดี และนำตัวเข้ารักษาที่สำนักฤาษีดังกล่าวอีกครั้ง จน น.ส.อ้อ ทนไม่ไหวตัดสินใจโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากสายด่วน พม.1300 และต่อมาในช่วงค่ำวันที่ 14 ก.ค. นางประภาพรรณ เกตุแก้ว หัวหน้ากลุ่มการพัฒนาสังคมและสวัสดิการ พมจ.สุราษฎร์ธานี เข้าประสานกับ พ.ต.อ.พงษ์ขจร สุกกสังค์ ผกก.สภ.วิภาวดี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปรับตัวมาพร้อมน้าชายและน้าสาวก่อนเข้าแจ้งความกับตำรวจ โดยมีผู้เสียหายเป็นผู้หญิงอายุ 50 ปีอีกรายเข้าแจ้งความด้วย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการสอบสวนปากคำ น.ส.อ้อ ระบุว่า เหตุการณ์เกิดต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. หลังจากมารดาของตนได้มาบอกว่า ตนป่วยเป็นมะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก จากการทำนายของหมอพ่อปู่ฤาษี และตนต้องเข้ารับการรักษา ตนทนรบเร้าจากแม่ไม่ไหว เนื่องจากแม่ของตนเป็นลูกศิษย์ของสำนักนี้ เมื่อไปถึงได้ทำพิธีด้วยการให้ตนเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นสวมผ้าถุงแล้วสองสามีภรรยาเจ้าสำนักได้ใช้น้ำมันทาไปทั่วร่างกายของตน และขณะที่ทาน้ำมัน หมอผู้ชายได้ใช้นิ้วล้วงเข้าไปในอวัยวะเพศของตน ประมาณ 3-4 นาที จึงเสร็จพิธี แล้วยังบอกให้ตนมาทำการรักษาอีก 2 วัน และมีการกระทำเช่นเดิม ตนจึงได้ตัดสินใจเข้ามาพักกับเพื่อนในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี และเข้าขอความช่วยเหลือจากนักข่าวจนวานนี้ (14 ก.ค.) พ่อได้มารับตนและพาไปที่สำนักดังกล่าวอีกและถูกกระทำเช่นเดิม จึงได้ขอความช่วยเหลือไปที่สายด่วน พม.1300

สายด่วน1300! พม.รุดช่วยสาว20ปีเหยื่อร่างทรง’พ่อปู่ฤาษี’แก้ผ้ารักษามะเร็ง

ภายหลังการสอบสวนปากคำแล้วเสร็จ เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.อ้อ ไปตรวจร่างกาย และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับ สองสามีภรรยาเจ้าสำนักดังกล่าว ในข้อหา ร่วมกันกระทำอนาจารกับหญิงที่อายุเกิน 15 ปี

อย่างไรก็ตาม ในการสอบสวนปากคำ น.ส.อ้อ ผู้เสียหายระบุว่า ยังมีเหยื่อที่เข้ารับการรักษาในลักษณะเดียวกับตนอีก 2 ราย เป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปี และ 14 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สุราษฎร์ธานี อยู่ระหว่างดำเนินการเข้าคุ้มครองและนำตัวเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวัน ก่อนนำตัวเข้าสู่กระบวนการสอบสวนปากคำด้วยสหวิชาชีพ

ล่าสุดช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิภาวดี ได้นำกำลังไปเชิญตัวสองสามีภรรยา เจ้าสำนักพ่อปู่ฤาษีมาเพื่อซักถามปากคำ โดย พ.ต.อ.พงษ์ขจร สุกกสังค์ ผกก.สภ.วิภาวดี ดำเนินการด้วยตนเอง ขณะเดียวกัน นายวัยวัชธ์ ศรีเพชรพูล นายอำเภอวิภาวดี พร้อมด้วยนายแพทย์สาธารณสุขอำเภอ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุสำนักดังกล่าวในพื้นที่หมู่ 6 ต.ตะกุกเหนือ เพื่อเก็บพยานหลักฐานและแจ้งข้อหาเปิดสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาตเพิ่มเติม