แล้วจะไปดูฝนดาวตกที่ไหนถึงจะชัดแจ่ม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแม่ฮ่องสอน มัดรวมสถานที่ดูฝนดาวตก 9 แหล่ง มาให้เตรียมขนเต็นท์ ถุงนอน ใส่ท้ายรถไปจับจองพื้นที่เหมาะ ๆ

เริ่มต้นที่ “ดอยจิกจ้อง” อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มนํ้าปาย ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ด้วยความที่อยู่บนระดับความสูงจากระดับนํ้าทะเล 1,933 เมตร ทำให้อากาศด้านบนเย็นสบาย โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะได้พบกับความเขียวขจีของป่าไม้และดอกไม้ป่านานาพันธุ์ บนจุดสูงสุดจะพบหลักหมุดของทหารช่างที่มาทำแผนที่ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2519 ด้วย ทางขึ้นอยู่ติดกับจุดชมวิวกิ่วลมระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร แม้จะเป็นทางคอนกรีตเดินทางสะดวก แต่แนะนำว่ารถที่ใช้ต้องเป็นรถ 4×4 และผู้ขับต้องใช้ความระมัดระวัง

หรือจะไปที่ “จุดชมวิวกิกอคอ” บ้านห้วยเฮี๊ยะ ที่อยู่อาศัยของชาวลาหู่ ที่ยังคงดำเนินชีวิตด้วยวิถีพื้นบ้านอย่างเรียบง่าย สอดคล้องไปกับธรรมชาติที่รายล้อม นอกจากจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ของเนินภูเขาสลับซับซ้อนไล่สีกันอย่างสวยงามแล้ว ยังมีไอหมอกสีขาวปกคลุม ตัดกับธรรมชาติสีเขียวอย่างลงตัว อากาศเย็นสบาย และท้องฟ้าโปร่งเห็นดาวชัดในยามคํ่าคืน นอกจากนี้ก็ยังมีบริการลานกางเต็นท์ และโฮมสเตย์เล็ก ๆ ด้วย

ไม่อยากออกไปไกลแนะนำที่ “ดอยปุยหลวง” ตั้งอยู่ในตำบลห้วยปูลิง อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ใกล้ ๆ กับหมู่บ้านห้วยฮี้ มีความสูงบนยอดดอยกว่า 1,722 เมตร เอกลักษณ์ของที่นี่คือจะเป็นภูเขารูปทรงฝาชีควํ่า ที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้โดยรอบ 360 องศา ด้านบนอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปีและต้องเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น ระหว่างสองข้างทางเดินจะเห็นป่าไม้และสัตว์ที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ป่านานาชนิด ทั้งกล้วยไม้ เอื้องแซะ และเห็ดต่าง ๆ นอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงดงามแล้ว ยังมีชุมชนบ้านห้วยฮี้ ที่เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของดอยปุยหลวง

หรือจะไปนอนชมหมู่ดาวที่ “นานอนโฮมสเตย์” บ้านพะนอคี หมู่บ้านกะเหรี่ยงขาว หรือปากเกอะญอ อยู่ท่ามกลางขุนเขา มีนาขั้นบันได และสร้างที่พักเล็ก ๆ ที่เข้ากับธรรมชาติไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยว นอนริมนาขั้นบันไดที่สวยแห่งหนึ่งของไทย สามารถมองเห็นวิวหน้าเบื้องหน้าที่ไม่มีบ้านหรือสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ มาบดบัง จึงเป็นที่ที่ดูดาวที่สวยแห่งหนึ่งเนื่องจากบริเวณที่พักอยู่ไกลกับชุมชน ทำให้ไม่มีแสงบดบังดวงดาว ปกติสามารถมองเห็นทางช้างเผือกด้วยตาเปล่าได้ เช้าจะเลยต่อไปเที่ยวนํ้าตกแม่สุรินท์ นํ้าตกพอนอคี พระธาตุบ้านพอนอคี หรืออ่างเก็บนํ้าหนองเขียวได้ด้วย

ส่วนที่ “ปางอุ๋ง” (โครงการพระราชดำริ ปางตอง 2) และอุทยานแห่งชาติถํ้าปลา-นํ้าตกผาเสื่อ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับการเสนอให้เป็นจุดท้องฟ้ามืด สามารถชมดาวได้บริเวณสันเขื่อน แต่พื้นที่ด้านในอุทยานฯ ยังไม่เปิดให้บริการกางเต็นท์ นักท่องเที่ยวสามารถพักโฮมสเตย์ชุมชนบ้านรวมไทยแทนได้

ออกไปที่อำเภอแม่ลาน้อย “จุดชมวิวดอยขุมคำ” นอกจากเป็นจุดชมวิวทะเลหมอกยามเช้าแล้ว ยังเป็นอีกทำเลที่เหมาะสำหรับการนอนชมดาวตก โดยอยู่ห่างจากตัวอำเภอไปราว 9 กม. จากจุดนี้ยังสามารถใช้เป็นเส้นทางไปยังบ้านละอูบ, บ้านดง และบ้านห้วยห้อม หมู่บ้านกาแฟ และนาขั้นบันได รวมถึงแปลงปลูกผักที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย เพื่อเที่ยวชมความงาม และสัมผัสกับบรรยากาศสวย ๆ ได้แบบเต็มอิ่ม

ไปที่อำเภอแม่สะเรียง “ดอยหว่ากลึโจ๊ะ (ผาวิหก)” ที่คนแม่สะเรียงแนะนำลองให้แวะดูสักครั้ง ด้วยความสูง 1,340 เมตร จากระดับนํ้าทะเล ยามที่ขึ้นไปยังจุดสูงสุดบนยอดเขาที่ต้องเดินเท้าขึ้นไปราว 500 เมตร จะมองเห็นทิวเขาสลับซับซ้อน สลับสีเขียวอ่อนแก่ ยิ่งในช่วงยามเช้าที่มีหมอกจาง ๆ ลอยเรี่ยด้วยจะยิ่งตราตรึงใจทางเดินขึ้นไปยังยอดเขามีดอกไม้ให้ชมตลอดสองข้างทางไม่ให้คนเดินเบื่อ การเดินทางแยกออกจากทางหลวง หมายเลข 108 เชียงใหม่-แม่สะเรียงไปไม่ไกล

สุดแดนสาละวินที่อำเภอสบเมย “ดอยพุ่ยโค” เป็นดินแดนทุ่งหญ้าสีทอง ที่มีวิวสวยงามและมีทะเลหมอกพร้อมวิวที่ไม่เหมือนใครเพราะมีต้นเดียวดายต้นใหญ่ขึ้นอยู่ตรงกลาง แถมชมวิวรอบ 360 องศาได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก ยามคํ่าคืนก็จะเห็นดาวเต็มท้องฟ้า คิดจะไปกางเต็นท์ชมดาวตกแนะนำให้เตรียมเสบียงอาหารไปให้พร้อม เพราะด้านบนจะไม่มีร้านอาหารหรือร้านค้าใด ๆ จุดสุดท้ายที่มีให้แวะซื้อได้คือหมู่บ้านก่อนจะถึงทางขึ้นดอยราว 2 กิโลเมตร ดอยพุ่ยโค ตั้งอยู่ที่บ้านอุมดาเหนือ ตำบลแม่คะตวน อำเภอสบเมย เดินทางผ่านอำเภอฮอด อำเภอแม่สะเรียง เเล้วเลี้ยวซ้ายไปทางสบเมย ก่อนจะถึงสบเมยจะมีทางแยกไปบ้านอุมดาเหนือ

ที่สบเมยยังมีจุดชมดาวตกเหมาะ ๆ อีกแห่งอยู่ที่ “กลอเซโล” ชื่อที่ถูกเรียกขานให้เข้าใจตรงกันของจุดชมวิวบนเทือกเขาชายแดนไทย-เมียนมา ฝั่งแม่นํ้าสาละวินของอำเภอสบเมย แต่เทือกเขานี้ประกอบด้วย 2 หมู่บ้าน ได้แก่ หมู่บ้านกลอเซโล และหมู่บ้านบุญเลอ ด้วยตำแหน่งที่ตั้งที่เป็นหุบเขาติดริมแม่นํ้าสาละวิน ณ จุดบรรจบกันของแม่นํ้าสาละวินและแม่นํ้าเมย จึงเป็นที่มาของชื่ออำเภอสบเมย เกือบทุกวันจึงมีสายหมอกลอยเรี่ยให้เห็น ว่ากันว่าไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อยเหมือนที่อื่น เพราะการันตีว่าจะได้ชมหมอกร้อยละ 90 จุดกางเต็นท์แต่ละจุดจะมีความสวยงามและลักษณะเด่นแตกต่างกันออกไป

หมู่บ้านกลอเซโล เป็นจุดที่อยู่ใกล้ติดกับแม่นํ้าสาละวินมากกว่าหมู่บ้านบุญเลอ จะเห็นทะเลหมอกยามเช้าตัดกับวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้านอย่างชัดเจน จุดกางเต็นท์มีประมาณ 4 จุด ได้แก่ จุดชมวิวขุนกลอเซโล จุดชมวิวโรงเรียนบ้านกลอเซโล จุดชมวิวม่อนบลอโจ และจุดชมวิวม่อนภพฟ้า

หมู่บ้านบุญเลอ เป็นจุดชมวิวที่อยู่สูงกว่าหมู่บ้านกลอเซโล จะเห็นดวงดาวและวิวทิวทัศน์ที่กว้างกว่า สามารถเห็นวิวของแม่นํ้าสาละวินซึ่งกั้นพรมแดนไทย-เมียนมา และบางแห่งสามารถเห็นจุดบรรจบของแม่นํ้าเมยและแม่นํ้าสาละวินได้อย่างชัดเจนอีกด้วยจุดกางเต็นท์มีประมาณ 5 จุด ได้แก่ จุดชมวิวทะเลหมอกสองแผ่นดิน จุดชมวิวพระธาตุบ้านบุญเลอ จุดชมวิวม่อนเดียวดาย จุดชมวิวม่อนชมดาว และจุดชมวิวดอยโจโค๊ะ

สำหรับเส้นทางขึ้นกลอเซโล ถือเป็นอีกเส้นทางในตำนานที่ถูกกล่าวถึงความโหดแบบไม่ปรานีใคร มีให้เลือกหลากหลายเส้นทางโดยแต่ละทางจะมีความยากลำบาก และลาดชันแตกต่างกันไป แนะนำควรใช้รถที่มีสมรรถนะสูงและต้องขับเคลื่อน 4 ล้อ รวมกับทักษะความชำนาญในการขับของผู้ขับขี่เพื่อความปลอดภัย ตลอดเส้นทางขึ้นกลอเซโล จะผ่านหมู่บ้านซึ่งมีเด็ก ๆ คอยแจกยิ้มรอต้อนรับ หากต้องการแบ่งปันขนม เสื้อผ้า ของเล่น สามารถนำติดไปให้น้อง ๆ ได้

เส้นทางเข้าจากบ้านแม่คะตวน จะมีลักษณะเส้นทางเป็นทางลาดยางสลับคอนกรีต จนถึงบ้านซื่อมื่อน้อยสังเกตเสาโทรศัพท์สูง 2 ต้นคู่กัน ให้ไปทางแยกขวาสู่ทางดินผ่านบ้านห้วยแห้งสู่บ้านบุญเลอ ไม่มีรถส่วนตัวสมรรถนะสูงมีรถรับจ้างบริการจุดนัดพบ ณ อบต.แม่สามแลบ ส่วนรถมอเตอร์ไซค์สามารถขึ้นได้แต่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ.

อธิชา ชื่นใจ