“ลีกเอิง” ฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศฝรั่งเศส กำลังประสบปัญหาหนักที่อาจส่งผลให้หลายสโมสรถึงขั้นล้มละลาย เมื่อยังไม่สามารถหาเจ้าของลิขสิทธิ์มาถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลลีกในฤดูกาลหน้าได้ ทั้งที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 6 สัปดาห์ ก็จะเปิดฤดูกาลแล้ว

หลังจากที่ Mediapro เจ้าของลิขสิทธิ์เดิม ที่ถ่ายทอดระหว่างปี 2020-2024 หมดสัญญาลง และไม่ต้องการเซ็นสัญญาฉบับใหม่ ทำให้สมาคมฟุตบอลฝรั่งเศส (Ligue de Football Professionnel -LFP) ที่ดูแลการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุด 2 ระดับแรกของฝรั่งเศส (ลีกเอิง และลีกเดอซ์) ต้องมองหาเจ้าใหม่เพื่อเข้ามาถ่ายทอดสดการแข่งขันในช่วงปี 2024-2029

เจรจาหลายเจ้าแต่ตกลงไม่ได้
LFP เริ่มต้นการเจรจากับหลายเจ้ามาตั้งแต่เดือน ต.ค. ปีก่อน แต่ก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับใครได้ ไม่ว่าจะเป็น Amazon, Canal+, BeIN Sports, DAZN โดยเหตุผลหลักก็คือเรื่อง “ค่าลิขสิทธิ์” ที่ยังหาจุดลงตัวกันไม่ได้ เพราะ LFP ต้องการตัวเลขที่สูงถึงราว 1 พันล้านยูโรต่อฤดูกาล ซึ่งไม่มีเจ้าไหนจ่ายให้ได้

ประกอบกับตอนนี้ ลีกเอิงได้รับความสนใจลดลง หลังจากเพิ่งเสีย คีลิยัน เอ็มบัปเป ซูเปอร์สตาร์ประจำลีก ที่ย้ายจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไปอยู่กับ รีล มาดริด ในสเปน และถ้าหากเทียบกับลีกอื่นๆ ในยุโรปแล้ว “ลีกเอิง” ถือว่าเป็นลีกอันดับที่ 5 ที่ได้รับความนิยมน้อยกว่าทั้งพรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลา ลีกา สเปน, บุนเดสลีกา เยอรมนี และกัลโช อิตาลี ซึ่งล้วนขายลิขสิทธิ์ล่วงหน้าไปแล้วหลายปี เป็นเงินหลายพันล้านยูโร

Kylian Mbappe

ลุ้นอีกเฮือกเจรจา “Amazon-DAZN” อีกรอบ
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด FINANCIAL TIMES รายงานว่า Amazon กับ DAZN ได้กลับมาเจรจากับ LFP อีกครั้ง เพื่อพยายามหาข้อตกลงกันให้ได้ แต่ก็ยังมีหลายเงื่อนไขที่ทั้ง 2 เจ้าต้องการ ซึ่ง LFP อาจยังไม่สามารถตกลงได้ โดยเฉพาะเรื่องค่าลิขสิทธิ์แต่ละฤดูกาล ที่อาจจะไม่เท่ากัน และจะได้มากน้อยแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับยอดแอคเคานท์ของผู้ชมที่สมัครเข้ามาเป็นสมาชิกของเครือข่ายในแต่ละปี

อาจต้องเปิดช่องถ่ายทอดสดเอง
อีกหนึ่งทางออกที่เป็นไปได้ก็คือ การเปิดช่องทางของตัวเอง โดยร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Warner Bros Discovery เปิดช่องถ่ายทอดสดทางสตรียมมิ่งเองชื่อว่า “Max” แล้วให้คนเข้ามาสมัครเพื่อรับชม แต่การทำแบบนี้ แม้ว่าจะทำให้มีการถ่ายทอดสดแน่นอน แต่รายได้จะมากหรือน้อยแค่ไหนนั้น ไม่มีการการันตี และขึ้นอยู่ที่ยอดคนที่จะเข้ามาสมัครแพ็กเกจเพื่อรับชมเท่านั้น นอกจากนั้นยังต้องตกลงแบ่งส่วนแบ่งให้ Warner Bros Discovery ส่วนหนึ่งด้วย

ด้านสโมสรในลีกเอิงมีการประชุมกันไป 2 รอบแล้ว เพื่อร่วมแสดงความคิดเห็น และช่วยกันหาทางออก แต่ก็ยังไม่มีบทสรุปออกมา และดูเหมือนว่าแต่ละสโมสรจะไม่เอาด้วยกับทางออก 2 อย่างที่กล่าวมาด้วย เพราะทำให้รายได้ลดลง และไม่มีอะไรแน่นอน ทำให้ต้องเร่งคุยกันเพื่อหาข้อตกลงที่เร็วที่สุดกันต่อไป

Nasser Al Khelaifi – Vincent Labrune

นักวิเคราะห์ชี้อาจถึงขั้น “ล้มละลาย”
ด้าน อิวาน บลูม อดีตประธานบริหารสถานโทรทัศน์แห่งหนึ่งของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการซื้อ-ขายลิขสิทธิ์ฟุตบอล ระบุว่า นี่คือปัญหาใหญ่ของอุตสาหกรรมฟุตบอลเมืองน้ำหอม ที่อาจส่งผลให้หลายสโมสรล้มละลายได้เลย เพราะจำนวนเงินที่แต่ละสโมสรจะได้รับนั้นลดลงมาก และสโมสรที่ไม่ได้มีเจ้าของเป็นมหาเศรษฐีอยู่แล้ว ก็จะประสบสภาวะขาดทุน ซึ่งไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะกินเวลากี่ปี

“ภายใต้เงื่อนไขที่คุยกันอยู่ตอนนี้ แชมป์ในฤดูกาลหน้า อาจจะได้รับเงินน้อยกว่า 6 ล้านยูโร ซึ่ง แกล์กมองต์ ทีมอันดับสุดท้ายของฤดูกาลที่แล้ว ได้รับเสียอีก นี่จึงถือเป็นวิกฤติ และสิ่งที่ LFP บอกกับสโมสรว่าจะได้รับเงินสนับสนุนก้อนโตแน่นอนนั้น เป็นไปไม่ได้เลย”

“จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าหากสโมสรต้องเสียเงิน 25 ล้านยูโรทุกปี ถ้าหากคุณไม่ได้มีเจ้าของเป็นมหาเศรษฐีอย่าง นีซ, โมนาโก, แซงต์ เอเตียน หรือ เปแอสเช แล้วเป็นสโมสรเล็กๆ อย่าง น็องต์, แรนส์ และล็องส์ คุณจะต้องเจอกับวิกฤติแน่ เพราะคุณอาจต้องเสียรายได้ 25 ล้านยูโรต่อปี และไม่ใช่ปีเดียว แต่นานถึง 4 ปี ทำให้อาจมีไม่น้อยกว่า 8 สโมสรเสี่ยงล้มละลาย และเมื่อคนไม่มีกิน ทางออกของพวกเขาก็คือออกมาปฏิวัติ”

ทั้งนี้ ฟุตบอล “ไทยลีก” ของประเทศไทย ก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องการถ่ายทอดสดกับเจ้าไหนได้เช่นกัน แม้ว่าฤดูกาลใหม่กำลังจะเริ่มต้นในเดือน ส.ค. ที่จะถึงนี้.