เมื่อวันที่ 12 ก.ค. พ.ต.อ.เทียนชัย เลิศมณีทวีทรัพย์ ผกก.1 บก.สส.ภ.2 (กองกำกับการสืบสวนภาค 2), พ.ต.อ.ทวี กุดแถลง ผกก.สภ.หนองปรือ พร้อมตำรวจชุดนอกเครื่องแบบ กว่า 20 นาย นำหมายค้นศาลจังหวัดพัทยา เลขที่ 200/2567 เข้าตรวจบ้านพัก 2 หลัง ในพื้นที่ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังสืบทราบว่า เป็นฐานปฏิบัติการปล่อยเงินกู้นอกระบบ และมีพฤติกรรมใช้อาวุธปืนข่มขู่ลูกหนี้ เบื้องต้นพบเป็นบ้านชั้นเดียวเนื้อที่ประมาณ 100 ตารางวา รอบตัวบ้านติดกล้องวงจรปิดโดยรอบ ในรั้วบ้านพบ จยย. จอดอยู่ 5 คัน และรถกระบะอีก 1 คัน ภายในบ้านมีกลุ่มชายฉกรรจ์ประมาณ 10 คน นอนหลับอยู่ เมื่อตำรวจแสดงหมายค้น นายชนินทร์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ชาวจังหวัดจันทบุรี รับเป็นเจ้าของบ้าน

จากการตรวจค้นเบื้องต้น ตำรวจพบหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับเงินกู้นอกระบบ เป็นสมุดบัญชีรายชื่อลูกค้าที่เงินกู้ 2 เล่ม แท็บเล็ต ไอแพด 2 เครื่อง ที่ใช้สำหรับลงรายละเอียดลูกหนี้ที่มีการกู้ยืมเงินหลายร้อยรายชื่อ ซึ่งมีการกู้ยืมเงิน ทั้งแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน เริ่มต้นตั้งแต่หลักพันถึงหลักหลายหมื่นบาท มียอดหมุนเวียนสะพัด 4-5 ล้านบาท/เดือน นอกจากนี้ ยังตรวจยึดกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 3 นัด อยู่ภายในซองปืน แต่ไม่พบอาวุธปืน, โทรศัพท์มือถือ 15 เครื่อง, สมุดบัญชีธนาคาร 4 เล่ม ทองรูปพรรณและพระเครื่องน้ำหนักรวม 12 บาท และนามบัตรที่ใช้ในการเชิญชวนกู้เงินหลายร้อยใบ

โดย นายชนินทร์ ให้การอ้างว่า เพิ่งเริ่มปล่อยเงินนอกระบบในพื้นที่เมืองพัทยา หนองปรือ และบางละมุง ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มพ่อค้า แม่ค้า ตามตลาด และผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ ยอดเงินที่ปล่อยกู้ยืมเงิน ต่ำสุดหลัก 3,000 บาท สูงสุด 20,000 บาท มีทั้งแบบรายวัน รายเดือน ดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับการกู้เงินแบบไหน ส่วนลูกน้องมีทั้งหมด 9 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจ.นครราชสีมา มีหน้าที่ออกไปเก็บดอกเบี้ย ส่วนเรื่องการที่ถูกกล่าวหานำอาวุธปืนไปขู่ลูกหนี้ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง กระสุนปืนที่พบน่าจะเป็นของเพื่อนลืมไว้ ส่วนเงินที่นำมาปล่อยกู้ เป็นของตนเองบางส่วนและของนายทุน ยอดเงินอยู่ที่ประมาณ 8-9 แสนบาท

ด้าน พ.ต.อ.เทียนชัย เลิศมณีทวีทรัพย์ ผกก.1 บก.สส.ภ.2 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีกลุ่มชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้า แจ้งเบาะแสว่า มีกลุ่มปล่อยเงินกู้ดอกโหด ใช้พฤติกรรมรุนแรงในการทวง บางครั้งถึงกับใช้อาวุธปืนมาข่มขู่ ทางผู้บังคับบัญชาจึงสั่งการให้ลงมาดูเรื่องนี้และติดตามจับกุมกลุ่มเงินกู้ดังกล่าว สำหรับเงินกู้นอกระบบรายนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีการแบ่งปล่อยเงินกู้เป็น 2 โต๊ะ คิดอัตราดอกเบี้ยทั้งแบบรายวัน และรายเดือน อยู่ที่ร้อยละ 2 ต่อวัน และร้อยละ 20 ต่อเดือน พบเส้นทางการเงินในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีเงินสะพัดเกือบ 10 ล้านบาท เบื้องต้นมีการแจ้งในข้อหา “ประกอบธุรกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุก 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 ถึง 500,000 บาท, เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท” จากนั้นส่ง พนักงานสอบสวน สภ.หนองปรือ คุมตัวทั้งหมดไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.