จบลงด้วยเสียงชื่นชมจากเมืองไทยไปถึงกรุงโซล เพราะไม่ใช่แค่หายคิดถึง แต่การกลับมาของบอยแบนด์ระดับตำนาน “SUPER JUNIOR” (ซูเปอร์จูเนียร์) กับเมมเบอร์ทั้ง 8 “Leeteuk (อีทึก) , Yesung (เยซอง), Shindong (ชินดง), Eunhyuk (อึนฮยอก), Donghae (ทงเฮ), Siwon (ซีวอน), Ryeowook (รยออุค)” , และ “Kyuhyun (คยูฮยอน) กับคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 2 ปีที่เมืองไทย งาน “2024 SUPER JUNIOR <SUPER SHOW SPIN-OFF : Halftime> in BANGKOK” ที่มีแต่คำว่าคุ้มแล้วคุ้มอีก เลิศเลอสุดๆ อะไรที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็นในคอนเสิร์ตครั้งนี้ 

สมความเป็นดินแดนบ้านหลังที่ 2 ของหนุ่มๆ ที่พอเปิดทัวร์ปุ๊บซูเปอร์จูเนียร์ก็เลือกจิ้มล็อกวันมาประเทศไทยเป็นที่แรกในเอเชียทันที โดยผู้จัด “ไอมี่ไทยแลนด์” ใส่เต็มความยิ่งใหญ่แบบอันลิมิตให้ “เอลฟ์ไทย” (E.L.F. : ชื่อแฟนคลับ) ได้มีความสุขกับศิลปินนัมเบอร์วันในใจอย่างเต็มที่ ออกสตาร์ทช่วงเวลาแห่งความสนุก ทะเลสีน้ำเงินสว่างขึ้นอย่างงดงามท่ามกลางเสียงกรี๊ดดังกระหึ่มฮอลล์ ต้อนรับ 8 หนุ่มเปิดโชว์ด้วยเพลง ‘Show Time’ ตามด้วย ‘Wonder Boy’ , ‘Dancing Out’, ‘Don’t Wait’ และ ‘Runaway’ ที่ชวนเอลฟ์ลุกจากเก้าอี้แดนซ์มันส์ๆ ไปด้วยกัน งานนี้เอลฟ์พลังล้นจนศิลปินยกนิ้วชมเป็นภาษาไทยว่า “เก่งจังเลย” ในช่วงพักเบรกก็พูดคุยทักทายให้หายคิดถึง สมกับการไม่เจอกันพร้อมหน้าถึง 2 ปี 

ดีกรีความสนุกพุ่งขึ้นเรื่อยๆ กับสเปเชียลสเตจที่กำเนิดขึ้นในคอนเสิร์ตครั้งนี้ เริ่มจาก ‘L.E.D’ (Leeteuk , Eunhyuk , Donghae) โชว์สเต็ปสายเต้นในเพลง ‘Suit Up’ จากนั้นเปลี่ยนโหมดมาหูเคลือบทองกับสายโวคอล ‘S.K.Y’ (Shindong ,Yesung ,Kyuhyun) กับเพลง ‘Let’s Not…’ ปิดท้ายเวทีเดือดๆ ในเพลง ‘Danger’ จาก ‘R&S’ (Ryeowook , Siwon) ที่ทั้งเท่ทั้งคูลอันตรายต่อใจเอลฟ์มาก! ความพิเศษไม่หมดเท่านั้น บอกแล้วว่าอะไรที่ไม่เคยได้เห็นจะได้เห็น เมมเบอร์ขอยึดเพลงโซโล่จากยูนิต ‘K.R.Y’ มาเป็นเพลงของวง คว้าไมค์ร้องด้วยกันให้ฟังเป็นครั้งแรก ทั้งเพลง ‘It Has To Be You , At Gwanghwamun’ และ ‘The Little Prince’ จบพาร์ทนี้ด้วยรอยยิ้มในเพลงความหมายดีๆ ‘The One I Love’ ที่แฟนคลับทำโปรเจ็กต์แปลอักษรจากกล่องไฟเป็นคำความหมายซึ้งๆ ว่า 슈주  (โปรเจ็กต์ในรอบวันเสาร์)

พักเวทีด้วย VCR ครู่เดียว หนุ่มๆ ก็ออกมาเรียกเสียงกรี๊ดดังลั่นขึ้นอีกครั้ง พร้อมความสดใสวัยเจน 4 กับเพอร์ฟอร์มฟิลเตอร์คิวท์ๆ แบ่งกรุ๊ปเต้นคัฟเวอร์เพลงรุ่นน้องอย่าง ‘Get A Guitar’ และ ‘Hype Boy’ ทำเอาถูกใจทั้งด้อม ก่อนเอลฟ์ทั้งหลายจะถูกระชากเปลี่ยนมูดกรี๊ดสลบกับลุคสายลับหล่อเท่ติดแกลมของ 8 หนุ่มในเพลง ‘Spy’ และ ‘Opera’ ตามด้วยเมดเลย์เพลง ‘Lovely Day’ ท่ามกลางป้ายแฟนโปรเจ็กต์ความหมายซึ้งๆ (ในรอบวันเสาร์) คำว่า 슈주와함게있으면 언제나Lovely Day (ทุกๆ วันเป็นวันที่สวยงามเมื่ออยู่กับเอสเจ) และเพลง ‘From U’ มีป้ายแฟนโปรเจ็กต์ (ในรอบวันอาทิตย์) คำว่า 슈주택한후회한없다 (เราไม่เคยเสียใจที่เลือกSJ) ส่งท้ายคอนเสิร์ตด้วยเพลงที่โชว์ความเท่ของพวกเขา อย่าง ‘Devil’ และ ‘Black Suit’

แต่เอลฟ์ไม่ยอมให้กลับง่ายๆ รอมา 2 ปี ต้องมากกว่านี้ต้องเจอกันนานกว่านี้ รวมพลังกันตะโกนเรียก ‘SUPER JUNIOR’ พร้อมเล่นเวฟบูสต์เอนเนอร์จี้ไปให้ถึงหลังเวที จนได้ผล 8 หนุ่มกลับขึ้นเวทีอีกครั้ง ปลุกความร้อนแรงให้แฟนๆ เต้นยับไม่กลัวปวดขาไปด้วยกันกับเพลงที่แค่ดนตรีขึ้นก็ต้องลุกขึ้นออกสเต็ปต์อย่าง ‘A Man In Love’ ,  ‘Sorry Sorry’ เสียงชานท์ เสียงร้องตามดังลั่น และทิ้งท้ายบอกลาด้วยเพลง ‘Believe’ ที่หนุ่มๆ พูดความรู้สึกแทนใจว่าทั้งพวกเขาและแฟนคลับอยู่ด้วยกันมานานเกือบ 20 ปีแล้วเป็นเพราะความเชื่อใจกันและกัน ซึ่งเพลงนี้เอลฟ์เองก็ได้บอกความรู้สึกกลับไปหาศิลปินที่รักด้วยคำว่า ‘2♡∞’ จากการแปลอักษรจากกล่องไฟในคอนเสิร์ตวันที่สอง (รอบวันอาทิตย์) ทำเอา 8 หนุ่มซึ้งใจ เอ่ยให้สัญญากับเอลฟ์ไทยของพวกเขาว่า จะกลับมาหาอีกแน่นอน เพราะที่นี่เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองที่มากี่ครั้งก็อบอุ่นเสมอ นับว่าเวลา 2 ปีที่เอลฟ์ไทยเฝ้ารอโมเมนต์ที่โหยหา ได้ร้องเพลง ได้ยิ้ม ได้หัวเราะและได้บอกความในใจกับ ‘SUPER JUNIOR’ คอนเสิร์ตครั้งนี้ทำให้สิ่งเหล่านั้นสิ้นสุดการรอคอย อีกทั้งยังหอบความประทับใจกลับไปอย่างล้นหัวใจอีกด้วย

แฟนๆสามารถติดตามข่าวสารรอบโลกได้แล้ววันนี้ที่ www.dailynews.co.th และทุกแพลตฟอร์มของ Dailynews