สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ว่า เทมส์ วอเทอร์ หลีกเลี่ยงความช่วยเหลือจากรัฐ ภายใต้รัฐบาลอนุรักษนิยมชุดก่อนหน้า ส่งผลให้รัฐบาลชุดใหม่จากพรรคแรงงาน ต้องตัดสินใจว่าจะโอนกิจการของบริษัท ให้มาเป็นของรัฐหรือไม่
ทั้งนี้ เทมส์ วอเทอร์ ระบุว่า หนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นประมาณ 9% เป็นเกือบ 15,250 ล้านยูโร (ราว 600,000 ล้านบาท) ในช่วงเวลา 1 ปี จนถึงสิ้นเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ขณะที่หน่วยงานกำกับดูแลน้ำของสหราชอาณาจักร ระบุเสริมว่า เทมส์ วอเทอร์ มีเงินทุนหมุนเวียนอยู่ที่ 1,800 ล้านยูโร (ราว 71,000 ล้านบาท) ซึ่งเพียงพอจนถึงเดือน พ.ค. 2568
“ความท้าทายที่พวกเราเผชิญอยู่นั้น มีความชัดเจนอย่างมาก แต่ประสิทธิภาพในการดำเนินงานและการเงินของเราในปีที่แล้ว แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าที่ดี และผลลัพธ์เชิงบวกเหล่านี้ เป็นรากฐานที่เหมาะสมในการสร้างและการปรับปรุง” นายคริส เวสตัน ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของเทมส์ วอเทอร์ กล่าว
อนึ่ง เทมส์ วอเทอร์ ระบุว่ามีการลงทุนเป็นประวัติการณ์ในปีงบประมาณที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้น 18% อยู่ที่ 2,100 ล้านยูโร (ราว 82,700 ล้านบาท) เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นที่เก่าแก่ ซึ่งบริษัทได้รับความช่วยเหลือจากรายได้ที่เพิ่มขึ้น 10% เป็น 2,400 ล้านยูโร (ราว 94,500 ล้านบาท) เนื่องจากลูกค้าจ่ายค่าน้ำมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เทมส์ วอเทอร์ กลับพลาดเป้าหมายในการลดการรั่วไหล และลดการปล่อยน้ำเสียลงสู่แม่น้ำ แม้จะลงทุนไปมากก็ตาม นั่นจึงทำให้นักสิ่งแวดล้อมหลายคนแสดงความไม่พอใจมากขึ้น ต่อมลพิษที่เพิ่มขึ้นบนชายหาดและทางน้ำของสหราชอาณาจักร และกล่าวโทษบริษัทน้ำภาคเอกชน.
เครดิตภาพ : AFP