Volvo EC40 และ EX40 ได้รับการเปลี่ยนชื่อจากรุ่นเดิม ได้แก่ Volvo C40 Recharge และ XC40 Recharge ตามลำดับ เพื่อสร้างความชัดเจนให้กลุ่มผลิตภัณฑ์รถไฟฟ้าจากวอลโว่ และสอดคล้องกับรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวอย่าง Volvo EX30 นอกจากนี้ วอลโว่ ยังได้ยุติการใช้คำว่า Recharge ในชื่อผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นรวมถึงรถปลั๊ก-อินไฮบริด

นายคริส เวลส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วอลโว่ คาร์ ประเทศไทย เปิดเผยว่าวอลโว่ปรับแผนการทำตลาดรถยนต์ใหม่ จากเดิมในปี 2025 จะขายรถไฟฟ้า (อีวี) ทั้งหมด เปลี่ยนเป็นรถอีวีจากปัจจุบันมีสัดส่วน 80% เพิ่มเป็น 90% และรถปลั๊ก-อิน ไฮบริดจาก 20% เหลือเพียง 10% เนื่องจากผู้บริโภคยังต้องการใช้รถที่สามารถเดินทางไกลได้โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องการชาร์จไฟฟ้า

“สำหรับยอดขายรถของวอลโว่ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาอยู่ที่ 20% คาดครึ่งปีน่าจะได้ตามแผนหรือเติบโต 11% เพราะปัจจัยการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐยังไม่ชัดเจน ประกอบกับสถาบันการเงินยังเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อรถยนต์อยู่ จากการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 10% โดยเฉพาะตลาดแมส ส่วนตลาดพรีเมียม เซกเมนต์ได้รับผลกระทบไม่มาก เพราะกำลังซื้อยังมีอยู่ เพียงแต่ชะลอการซื้อลงบ้าง ส่วนปี 2025 วอลโว่จะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ 10 รุ่นตามแผน”

นอกจากนี้วอลโว่ประกาศเปลี่ยนชื่อรุ่นรถไฟฟ้าวอลโว่ใหม่เพื่อรองรับตลาดรถอีวีที่เติบโต โดยเปลี่ยนชื่อรุ่นรถไฟฟ้า 2 รุ่นแรกคือ Volvo C40 Recharge เปลี่ยนชื่อเป็น Volvo EC40 และ Volvo XC40 Recharge เปลี่ยนชื่อเป็น Volvo EX40 พร้อมเปิดตัวรุ่นพิเศษแบล็กอิดิชั่น มาพร้อมสีตัวถังภายนอกใหม่ ได้แก่ สี Sand Dune ที่ตัดกับโครงหลังคาสีดำของตัวรถอย่างลงตัวทั้ง 2 รุ่น ราคาลดลงถึง 3 แสนบาท คือรุ่น EC40 แบล็กอิดิชั่น เหลือเพียง 2.49 ล้านบาท และ XC40 แบล็กอิดิชั่น เหลือเพียง 2.39 ล้านบาท พร้อมส่งมอบรถได้ทันที อย่างไรก็ตาม การลดราคาลงมากถึง 3 แสนบาทนั้น ทางวอลโว่ได้ปรับลดเงื่อนไขแพ็กเกจบำรุงรักษาตามความต้องการของลูกค้าแทน

นายคริส กล่าวว่า “เพื่อสร้างความเข้าใจที่ชัดเจนแก่ผู้บริโภค และเตรียมความพร้อมสู่การเป็นบริษัทรถไฟฟ้าในอนาคต วอลโว่ คาร์ จึงเปลี่ยนชื่อรถไฟฟ้าสองรุ่นแรกให้สอดคล้องกับรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ ๆ ที่เพิ่งเปิดตัว เชื่อว่าชื่อผลิตภัณฑ์ที่ถูกเปลี่ยนจะช่วยมอบความชัดเจนแก่ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นเมื่อซื้อรถไฟฟ้า หรือรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด จากวอลโว่”