ศึกเทเบิลเทนนิสเก็บคะแนนสะสมโลก รายการ “ดับเบิลยูทีที สตาร์ คอนเทนเดอร์ แบงค็อก 2024” ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก ซึ่งประเทศไทย ได้รับเกียรติจาก “เวิลด์ เทเบิลเทนนิส” หรือ ดับเบิลยูทีที ให้เป็นเจ้าภาพรายการเก็บคะแนนสะสมโลกสนามสุดท้าย ก่อนเปิดมหกรรมกีฬาใหญ่อย่างโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส รายการนี้มีนักกีฬา 127 คน จาก 21 ประเทศ ร่วมชิงชัย 5 ประเภท ประกอบด้วย ชายเดี่ยว, หญิงเดี่ยว, ชายคู่, หญิงคู่ และคู่ผสม ชิงเงินรางวัลรวม 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9,200,000 บาท
ล่าสุดการชิงชัยได้เสร็จสิ้นลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยผลงานที่ดีที่สุดของทัพลูกเด้งไทย คือ การเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ในประเภทคู่ผสม และคว้าอันดับ 3 ร่วมมาครอง จาก “หญิง” สุธาสินี เสวตรบุตร กับ “ไบร์ท” ภาดาศักดิ์ ตันวิริยะเวชกุล ส่วนประเภทเดี่ยว สามารถเข้าได้ลึกที่สุดที่รอบ 16 คนสุดท้าย จาก “ทิพย์” อรวรรณ พาระนัง ในประเภทหญิงเดี่ยว
ขณะที่ แชมป์ประเภทต่างๆ มีดังนี้ ชายเดี่ยว ได้แก่ โทโมคาซุ ฮาริโมโต มือ 11 ของโลกจากญี่ปุ่น, หญิงเดี่ยว ได้แก่ มิมะ อิโต มือ 11 ของโลกจากญี่ปุ่น, ประเภทชายคู่ ได้แก่ โซระ มัตซูชิมา กับ โทโมคาซุ ฮาริโมโต คู่มือ 10 ของโลกจากญี่ปุ่น, ประเภทหญิงคู่ ได้แก่ โฮโนกะ ฮาชิโมโต กับ ฮิโตมิ ซาโต คู่มือ 10 ของโลกจากญี่ปุ่น และประเภทคู่ผสม ได้แก่ โทโมคาซุ ฮาริโมโต กับ ฮินะ ฮายาตะ คู่มือ 2 ของโลกจากญี่ปุ่น ส่งผลให้นักกีฬาจากญี่ปุ่น กวาดแชมป์ไปได้ทั้งหมดทุกประเภท และ โทโมคาซุ ฮาริโมโต วัย 21 ปี สามารถผงาดแชมป์ได้ทุกรายการที่เจ้าตัวลงแข่ง นั่นคือ 3 เหรียญทอง นั่นเอง
หลังเสร็จสิ้นการแข่งขัน นายณัฐวุฒิ เรืองเวส นายกสมาคมกีฬาเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงภาพรวมการเป็นเจ้าภาพของไทยในรายการเทเบิลเทนนิสระดับ 5 ดาว ครั้งนี้ ว่า รายการครั้งนี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นรายการที่นักกีฬาเก่งๆ ที่ได้โควตาโอลิมปิกเกมส์แล้ว จะมาทำผลงานให้ดี เพื่อหวังคะแนนสะสมที่จะได้จากรายการนี้ไปใช้ในการจับสลากวางอันดับแข่งขันรอบแรกของโอลิมปิกเกมส์ 2024 จึงเป็นที่น่าภาคภูมิใจที่เราได้เป็นเจ้าภาพต้อนรับนักกีฬาระดับโลกมากมาย
“ภาพรวมผลงานของนักกีฬาไทยนั้น ในกลุ่มนักกีฬาทีมชาติที่เตรียมจะไปโอลิมปิกเกมส์ ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ประเภทหญิงเดี่ยวก็มีหนึ่งคนที่สามารถเข้าได้ถึงรอบ 16 คนสุดท้าย และในประเภทคู่ผสม เรายังสามารถล้มคู่มือ 2 ของโลก และเข้าได้ถึงรอบรองชนะเลิศ ได้เป็นครั้งแรก ขณะที่ภาพรวมของการเป็นเจ้าภาพนั้น ก็ได้รับคำชมเชยจากดับเบิลยูทีที เจ้าของรายการว่ากระแสดีมากๆ นอกจากคนไทย ที่เดินทางมาชมแล้ว ยังมีแฟนคลับหรือผู้ติดตามของนักกีฬาทั้งจากจีน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เดินทางเข้ามาที่สนามนับพันคนต่อวัน ซึ่งการที่มีนักกีฬาต่างชาติและนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา มันโยงไปถึงเรื่องการท่องเที่ยวตามนโยบาย สปอร์ต ทัวริซึม ของรัฐบาล การมาเที่ยวประเทศไทยและได้รับการต้อนรับที่ดีของเราจะทำให้พวกเขากลับบ้านไปและพูดกันปากต่อปาก มันจะทำให้พวกเขากลับมาอีก และสื่อมวลชนก็ได้เสนอภาพงานออกไปเป็นวงกว้าง ดังนั้นภาพรวมของการจัดงาน จึงถือว่าประสบความสำเร็จด้วยดี และเชื่อมั่นว่าทาง ดับเบิลยูทีที จะให้ประเทศไทยจัดงานนี้อีกครั้งในปีหน้าอย่างแน่นอน” นายกตูน กล่าว
นายณัฐวุฒิ ยังกล่าวถึงกิจกรรมต่อไปที่จะร่วมงานกับ ดับเบิลยูทีที ว่า ในเดือน ก.ย. นี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพรายการ “ดับเบิลยูทีที ยูธ คอนเทนเดอร์” หรือรายการเก็บคะแนนสะสมโลกประเภทเยาวชน รายการนี้จะมีนักกีฬาแข่งขันในรุ่นอายุ 11, 13, 15, 17 และ 19 ปี ถือเป็นรายการสำคัญอีกรายการหนึ่งที่ถือเป็นนโยบายของสมาคมฯ ที่พยายามจะสร้างเด็กรุ่นเยาวชนขึ้นมาใหม่ ด้วยความที่เราเป็นเจ้าภาพเราจะได้สิทธิส่งนักกีฬารุ่นละ 6 คน ชาย-หญิง
ดังนั้นนักกีฬาเยาวชนทีมชาติของสมาคมฯ ในแต่ละปีจะมีถึง 60 คน จุดนี้จะช่วยสร้างแรงกระตุ้นและแรงผลักดันให้กับปิงปองไทย เกิดการตื่นตัว เพราะจะทำให้นักกีฬาเด็กๆ ตัวพ่อแม่ผู้ปกครองและตัวสโมสรเห็นว่า สมาคมฯ เรามีทิศทางที่จะทำให้นักกีฬาได้เป็นเยาวชนทีมชาติ ได้มีช่องทางไปแข่งขันกับนักกีฬานานาชาติ มันจะเป็นฐานสำคัญที่ทำให้กีฬาเทเบิลเทนนิสของไทยเราแข็งแรง
