สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ว่าประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร ยกย่องตัวเลขการตัดไม้ทำลายป่าของโคลอมเบีย ซึ่งต่ำที่สุดในรอบ 23 ปี และลดลงอย่างเห็นได้ชัดในป่าฝนแอมะซอน

แม้ในปี 2566 โคลอมเบียสูญเสียพื้นที่ป่าไปเกือบ 80,000 เฮกตาร์ (เกือบ 500,000 ไร่) ซึ่งเทียบเท่ากับพื้นที่ของนครนิวยอร์ก ในสหรัฐ แต่ถือว่าน้อยกว่าจำนวนป่าที่สูญเสียไปในปี 2565 ถึงร้อยละ 36 “การตัดไม้ทำลายป่าถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 23 ปี” เปโตรกล่าวผ่านเอ็กซ์ “เราจะต้องทำให้เป็นศูนย์ เพื่อรักษาปอดของโลก”

การตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่แอมะซอนของโคลอมเบียลดลงร้อยละ 38 ซึ่งกระทรวงสิ่งแวดล้อมอธิบายว่า การลดลงอย่างต่อเนื่องส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากโครงการจ่ายเงินให้เกษตรกร เพื่อแลกกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ เช่นเดียวกับในภูมิภาคที่กลุ่มกองโจรเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพกับรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม นางซูซานา มูฮัมหมัด รมว.สิ่งแวดล้อม เตือนว่าจะมีการตัดไม้ทำลายป่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 40 ในช่วงต้นปี 2567 เนื่องจากการเจรจาสันติภาพยังคงติดขัด จากการที่กองกำลังสาขาของกองกำลังติดอาวุธปฏิวัติโคลอมเบีย (ฟาร์ก) ปฏิเสธข้อตกลงสันติภาพ ปี 2559 และใช้ข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อใช้ประโยชน์ รวมไปถึงอนุญาตให้บุคคลที่สามทำลายพื้นที่ป่าบางส่วนเพื่อแลกกับเงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 36 ล้านบาท)

กระบวนการดังกล่าวเป็นอุปสรรคสำหรับเปโตร ผู้นำโคลอมเบียซึ่งผลักดันโครงการอนุรักษ์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างทะเยอทะยาน ในประเทศซึ่งมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และได้ให้คำมั่นที่จะลดการตัดไม้ทำลายป่าให้เป็นศูนย์ ภายในปี 2573

ในปีนี้ โคลอมเบียจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ สมัยที่ 16 หรือ คอป16 ในเดือน ต.ค. ตามที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมชี้แจง สาเหตุหลักของการตัดไม้ทำลายป่าในโคลอมเบีย ได้แก่ การทำปศุสัตว์อย่างกว้างขวาง, โครงสร้างการขนส่งขั้นพื้นฐานที่ไม่ผ่านการวางแผน, พืชผลที่ผิดกฎหมาย, การสกัดแร่ และการตัดไม้อย่างผิดกฎหมาย.

เครดิตภาพ : AFP