เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการซื้อขายวุฒิปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยพิษณุโลก พร้อมทีมกฎหมายของกระทรวง อว. ได้รับมอบหมายจาก น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว.ให้ลงพื้นที่มหาวิทยาลัยพิษณุโลก เพื่อร่วมประชุมกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยพิษณุโลก ประกอบด้วย ดร.มานพ เกตุเมฆ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร ดร.สุปภาดา ภูรีพงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ นายณโม รักเลี้ยง ผู้ช่วยอธิการบดี ดร.ศิธาชัย ศรีอุดม คณบดีศึกษาศาสตร์ นายสุนทร รักธนศาสตร์ ผู้รับใบอนุญาต และนายศิริวิชย์ สร้อยทองพงศ์ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษ

จากนั้น ศ.ดร.ศุภชัย เปิดเผยว่า น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. ได้สั่งการให้ตนและทีมกฎหมายของกระทรวง อว.ลงพื้นที่สอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการซื้อขายวุฒิปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยพิษณุโลกตามที่ได้ปรากฏเป็นข่าว เพราะเรื่องดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสังคมและความเชื่อมั่นต่อระบบการอุดมศึกษาของประเทศ พร้อมได้กำชับให้เร่งแก้ปัญหาโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้สังคมคลางแคลงใจ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบของคณะกรรมการได้รับรายงานว่ามหาวิทยาลัยได้ดำเนินการตั้งกรรมการสอบสวนและพบว่ามีผู้บริหารระดับคณะมีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการ มหาวิทยาลัยจึงได้มีคำสั่งให้ผู้บริหารระดับคณะดังกล่าวพ้นจากตำแหน่งไปแล้วและได้รายงานสภามหาวิทยาลัยพิษณุโลกทราบด้วยแล้ว รวมทั้งจะรายงานให้กระทรวง อว.ทราบภายใน 7 วันต่อไป ที่สำคัญมหาวิทยาลัยจะได้ดำเนินการกำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา พร้อมจะตรวจสอบเพื่อขยายผลในเรื่องดังกล่าวต่อไป

“การเดินทางมาครั้งนี้ เป็นการสอบสวนข้อเท็จจริงในเบื้องต้น และแจ้งให้ทางมหาวิทยาลัยทราบถึงกระบวนการต่างๆ ที่กระทรวง อว.จะดำเนินการ ไม่ได้มาจับผิดมหาวิทยาลัย แต่เป็นการทำความจริงให้ปรากฏแก่สังคม และขอให้มหาวิทยาลัยให้ความร่วมมือในการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ กระทรวง อว. ยังได้ขอข้อมูลเพิ่มเติมจากทางมหาวิทยาลัย เช่น ข้อมูลตรวจสอบการเข้าเรียนของนักศึกษา เพื่อทำการตรวจสอบย้อนหลังว่ามีการออกปริญญาบัตรที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ และหากพบความผิดปกติก็จะมีการดำเนินการตามมาตรการอย่างเด็ดขาดต่อไป” รองปลัดกระทรวง อว.กล่าว

ด้าน ดร.มานพ เกตุเมฆ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยพิษณุโลก กล่าวว่า มหาวิทยาลัยจะตรวจสอบและดำเนินการเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งยินดีร่วมมือกับกระทรวง อว.และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิสูจน์ความจริงว่าทางมหาวิทยาลัยไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการซื้อขายปริญญาบัตรดังกล่าว และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเช่นนี้อีก กระบวนการหลังจากนี้มหาวิทยาลัยจะมีการปรับเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ ควบคุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคอยสอดส่องดูแลภายในอย่างเข้มงวด