สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ว่า สำนักงานกิจการไต้หวัน ในกรุงปักกิ่ง เผยแพร่แถลงการณ์ เมื่อวันอาทิตย์ มีเนื้อหาสำคัญและ "ตรงไปตรงมา" ว่า ไต้หวันคือส่วนหนึ่งของจีน และ "ต้องมีการรวมชาติ" ความพยายามแบ่งแยกเอกราชถือเป็น "การปิดตายประตูเจรจา" 
ขณะที่สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ผู้นำไต้หวัน เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ปีนี้ "ปลุกปั่นยุยงให้เกิดการเผชิญหน้า และบิดเบือนข้อเท็จจริง" พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ( ดีพีพี ) ถือเป็น "ภัยคุกคามร้ายแรงที่สุดต่อเสถียรภาพและความมั่นคง" เนื่องจาก "จุดยืนของการประกาศเอกราช"
หญิงชาวไต้หวันสวมเสื้อลายธงชาติและถือธงชาติไต้หวัน ระหว่างเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองวันชาติ ในกรุงไทเป
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลปักกิ่ง เกิดขึ้นภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังผู้นำไต้หวันกล่าวสุนทรพจน์ เนื่องในวันชาติของไต้หวัน ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ต.ค. โดยประเด็นสำคัญของการกล่าวถ้อยแถลงปีนี้ ยังคงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบ ไช่ยืนยันว่า รัฐบาลไทเปจะเดินหน้ายกระดับศักยภาพทางทหาร ความมั่นคง และการป้องกันตนเอง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ทุกภาคส่วนในไต้หวัน ว่าจะไม่มีบุคคลใดสามารถบังคับข่มเหงให้ชาวไต้หวัน "ต้องเดินบนเส้นทางที่จีนกำหนดไว้" ไต้หวันจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อรักษา "สถานภาพปัจจุบัน" ให้คงอยู่ต่อไป "และต้องไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเพียงฝ่ายเดียว" 
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เนื่องในวาระครบรอบ 110 ปี "การปฏิวัติซินไฮ่" ที่นำไปสู่การสิ้นสุดรัชสมัยของราชวงศ์ชิง ราชวงศ์สุดท้ายของจีน ว่า แนวคิดการแบ่งแยกดินแดนของบุคคลบางกลุ่มในไต้หวัน ยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่หลวงต่อการรวมชาติอย่างสันติ ระหว่างไต้หวัน "กับมาตุภูมิ" และเป็น "อันตรายซ่อนเร้น" ต่อการฟื้นฟูแห่งชาติ 
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จีนยึดมั่นต่อทุกกลไกเพื่อนำไปสู่ "การรวมชาติอย่างสันติ" เพื่อผลประโยชน์ของชาวไต้หวันด้วย อย่างไรก็ตาม รัฐบาลปักกิ่งพร้อมทำทุกวิถีทาง เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของตัวเองเช่นกัน และ "ไม่ควรมีการสบประมาทจีนในเรื่องนี้".

เครดิตภาพ : AP