นายอรรถพล วรรณกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า จากการที่รัฐบาลได้ประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ (ครม.สัญจร) ที่ จ.นครรราชสีมา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้สร้างอานิสงส์ต่อการท่องเที่ยวของ จ.นครรราชสีมา อย่างมาก โดยเฉพาะการทำให้นักท่องเที่ยวสนใจการมาเที่ยวถึงตัวจังหวัดนครราชสีมาและอำเภออื่นๆมากขึ้น

โดยไม่หยุดการท่องเที่ยวอยู่เฉพาะบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เท่านั้น และในช่วงการจัดประชุม ครม.สัญจร ได้ช่วยสร้างความคึกคักให้กับเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างมากเพราะนอกจากคณะรัฐมนตรีแล้ว ยังมีผู้ติดตามและหน่วยงานส่วนกลางที่เดินทางเข้าร่วมในการประชุมด้วย เกิดการจับจ่ายในพื้นที่และเกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นได้อย่างมาก

ทั้งนี้ ในปี 2567 ตั้งเป้าตัวเลขนักท่องเที่ยวไว้ 10 ล้านคน และสร้างรายได้รวม 20,000 ล้านบาท กลับมาสูงสุดเท่ากับปีปกติก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 และสร้างการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวไปยัง จ.ชัยภูมิ ในฐานะเมืองน่าเที่ยวด้วย โดยสถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยว จ.นครราชสีมา ในช่วง 4 เดือนแรกของปี 67 (ม.ค.-พ.ค.) มีจำนวน 2.8 ล้านคน สร้างรายได้สะสม 5,674 ล้านบาท

ในช่วง 6 เดือนที่เหลือจากนี้ จะต้องมีมาตรการจากภาครัฐเข้ามากระตุ้นเพื่อให้เกิดการเดินทางเที่ยว เพราะ 3 เดือนนี้ (ก.ค.-ก.ย.) อยู่ในช่วงตกท้องช้างหรือเป็นช่วงโลว์ซีซั่น นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวน้อย แต่ในช่วง 3 เดือนสุดท้าย (ต.ค.-พ.ย.) เป็นฤดูกาลท่องเที่ยวหรือไฮซีซั่น ซึ่งเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาวเชื่อว่าเขาใหญ่จะเป็นตัวแม่เหล็กในการที่จะทำให้คนเข้ามาทำให่ได้ตามเป้า เพราะในช่วงปลายปีมีคอนเสิร์ตใหญ่ๆ เช่น บิ๊กเมาท์เท่น มิวสิค เฟสติวัล และอีเวนต์ กิจกรรมอื่นๆ ที่ ททท. จะเข้าไปสนับสนุนในด้านการท่องเที่ยว

สำหรับ จ.นครราชสีมา มีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ แหล่งท่องเที่ยวมรดกโลก แหล่งท่องเที่ยวชุมชน โดยในปี 2567 ททท. ได้ชูสินค้าที่เป็นจุดขายหลัก คือ เส้นทางท่องเที่ยว 3 มรดกโลกยูเนสโก เส้นทางท่องเที่ยวอารยธรรมขอม เส้นทางสายศรัทธาไหว้พระเมืองโคราช ปัจจุบันมีโรงแรมจำนวน 482 แห่ง 18,334 ห้อง

ทั้งนี้ในช่วงปี 2566 มีนักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยว จ.นครราชสีมา จำนวน 7.9 ล้านคน แยกเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทย 7.6 ล้านคน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 200,000 คน มีรายได้สะสม 15,000 ล้านบาท เมื่อพิจารณาจากค่าใช้จ่ายพบว่านักท่องเที่ยวชาวไทยใช้จ่ายเฉลี่ย 1,500 บาทต่อคนต่อครั้ง ในปีนี้เริ่มมีชาวต่างชาติเข้ามา จากเดิมมีจำนวนน้อย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่เริ่มเข้ามาได้แก่ จีน เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ กัมพูชา ลาว

นอกจากนี้ ททท.ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้ทำงานร่วมกับ ททท. 5 สำนักงานในจีนจัดแฟมทริปนำอินฟลูเอนเซอร์จีนเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูงจีน-ลาว ข้ามฝั่งเข้าทางหนองคายและบินลงสุวรรณภูมิเดินทางต่อเข้ามาภาคอีสาน เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้มาในพื้นที่นี้มากขึ้น อีกทั้งได้ประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทำความรู้จักกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และเข้าสู่เมืองนครราชสีมาด้วย