เมื่อวันที่ 7 ก.ค. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงเหตุการณ์ไฟไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ ถนนเยาวราช  ว่า ไฟไหม้ชุมชนตรอกโพธิ์ เยาวราช เปิดให้เห็นสภาวะกลวงใน กทม.กับปัญหาการจัดการที่ซ่อนอยู่หลังความเจริญ โดยด้านหน้าที่เต็มไปด้วยร้านค้าอาคารพาณิชย์แสงสีสวยงาม แต่ข้างหลังมีชุมชนแออัดและที่พักของแรงงานราคาถูกที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเยาวราช ขาดการวางระบบความปลอดภัยอย่างสิ้นเชิง สภาพชุมชนแออัดที่มีตึกสูงล้อมรอบ และทางเข้าคับแคบ เพราะพื้นที่ทุกตารางนิ้วถูกใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ

นายสุชัชวีร์ ระบุอีกว่า ที่สำคัญ ประปาหัวแดง หรือ Fire Hydrant ที่เป็นเสมือนคลังอาวุธสำคัญของนักดับเพลิงที่จะใช้น้ำฉีดควบคุมเพลิงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง กลับมีเพียงหัวเดียวในบริเวณนั้น และยังอยู่ห่างจากชุมชนที่เกิดเหตุกว่า 500 เมตร ทั้งที่ตามมาตรฐานสากล ประปาหัวแดงต้องอยู่ห่างจากชุมชนไม่เกิน 300 เมตร และถ้าเป็นชุมชนที่หนาแน่น ต้องมีประปาหัวแดงในระยะห่างกันประมาณ 100 เมตร ซึ่งหมายถึงว่าในพื้นที่เกิดเหตุควรต้องมีประปาหัวแดงอย่างน้อย 5 จุด จึงจะได้มาตรฐานความปลอดภัยสากล แต่กลับไม่มี และทางเชื่อมไปสู่ชุมชนก็คับแคบ ทำให้รถดับเพลิงขนาดใหญ่เข้าไปต่อเชื่อมสายดับเพลิงกับประปาหัวแดงตรงจุดนั้นไม่ได้

“น่าเสียดายครับ เยาวราชเพิ่งเป็นจุดเช็กอินระดับโลกจากผลงานของลิซ่า และมีผู้บริหารบ้านเมืองหลายท่านไปตามรอยลิซ่าที่อยู่ไม่ไกลจากบริเวณไฟไหม้ ซึ่งถ้าได้ใช้เวลาหลังเช็กอินจุดถ่ายทำ MV ของลิซ่าแล้วเดินสำรวจลึกเข้าไปอีกนิด ทะลุฉากหน้าที่สวยหรูของเยาวราช ก็คงจะได้เห็นสภาพปัญหาที่ซ่อนอยู่ และอาจวางมาตรการป้องกันได้ก่อนที่จะเกิดเหตุ ความเสียหายอาจจะไม่รุนแรงขนาดนี้ เบื้องหลังซอฟต์พาวเวอร์ของไทยต้องมีรากฐานมั่นคง ที่มาจาก #ความปลอดภัยสาธารณะ ไม่เช่นนั้น สภาวะกลวงจะส่งผลอันตรายกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม มาร่วมกันสร้างสังคมไทยปลอดภัย ไม่ใช่เพื่อใคร เพื่อเราทุกคนนะครับ” นายสุชัชวีร์ ระบุ