ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานคณะกรรมาธิการ การป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์ และคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร และคณะลงพื้นที่สถานฟื้นฟูสมรรถภาพปอเนาะเกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ เพื่อติดตามและรับฟังข้อมูล การแก้ไขปัญหายาเสพติด การบังคับใช้กฎหมาย และการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ในสถานฟื้นฟูสมรรถภาพปอเนาะเกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่

นายเลิศศักดิ์ กล่าวว่า จากการที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อต่างๆ ผู้บำบัดยาเสพติดร่วม 100 ชีวิต หนีจากสถานบำบัดยาเสพติด หรือปอเนาะเอกชนบนเกาะศรีบอยา และจากการเข้าร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการฯ กรณีลูกชายถูกทำร้ายเสียชีวิตจากการเข้าบำบัดยาเสพติด จึงได้นำคณะกรรมาธิการฯ เดินทางมาร่วมประชุมกับส่วนที่เกี่ยวข้องและรับฟังบรรยายสรุป ชี้แจง แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับภาพรวมการด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด การบังคับใช้กฎหมาย และการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดในปอเนาะ รวมทั้งปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงาน ตลอดจนแนวทางการแก้ไขปัญหา

จากการติดตามวภาพปัญหา เป็นที่น่าพอใจ โดยส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ชี้แจงรายละเอียดข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งพอสรุปสาเหตุได้ดังนี้ 1.สภาพความแออัดภายในสถานบำบัดหรือปอเนาะ ทำให้เกิดความเครียด 2.หลักสูตรการบำบัดมีระยะเวลานานเกินไป ระยะเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี ไม่มีคณะกรรมการกลั่นกรอง ในการปล่อยตัวกลับบ้าน 3.การถูกทำร้ายร่างการจากการใช้มาตรการในการควบคุม 4.อาหารไม่ถูกลักษณะ มีการกินรวมกันในภาชนะใบเดียวกัน 5.ไม่ได้รับการติดต่อจากครอบครัวหรือผู้ปกครองทำให้เกิดความรู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง

ด้านนายปราโมทย์ แหล่ทองคำ รองประธานกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย และผู้บริหารสถานฟื้นฟูสมรรถภาพปอเนาะเกาะศรีบอยา กล่าวว่า หลังจากได้มีการหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ โดยมีแนวทางในการแก้ปัญหาในสถานฟื้นฟูสมรรถภาพปอเนาะเกาะศรีบอยา ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวซ้ำซ้อนขึ้นอีก จังหวัดกระบี่ได้จัดประชุมฝ่ายปกครอง ตำรวจ ท้องถิ่นผู้นำชุมชน ผู้บริหารปอเนาะศรีบอยา และได้วางมาตรการ 18 มาตรการ เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาร่วมกัน อาทิ 1.ให้ศูนย์ฯ ชะลอการรับผู้ป่วยยาเสพติดและให้ปรับลดผู้ป่วยไม่ให้เกิน 200 คน เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ยกเว้นกรณีที่ได้มีการก่อสร้างอาคารอบรมขึ้นมาเพิ่มเติมให้สามารถรับผู้ป่วยได้เพิ่มเติมแต่ไม่เกิน 300 คน 2.ให้รับผู้ป่วยได้เฉพาะผู้ป่วยยาเสพติดสีเขียวและสีเหลืองเท่านั้น 3.ปรับระบบการรับผู้ป่วยยาเสพติดโดยการให้แพทย์โรงพยาบาลเหนือคลองทำการตรวจร่างกายผู้ป่วยก่อนเข้ารับการบำบัดในศูนย์ฯ และอื่นๆ

หลังจากได้รับฟังแนวทางการแก้ไขปัญหา ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร พอใจและชื่นชม 18 มาตรการของจังหวัดกระบี่ ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง รวมทั้งได้รับทราบข้อเท็จจริงข้อจำกัดในการดำเนินการของสถานบำบัดดังกล่าว โดยเฉพาะงบประมาณและการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยว