จากกรณี นางสาริณี ระดาเสริฐ อายุ 54 ปี ดื่มน้ำอัดลมสีเขียว โดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนนำวางไว้หน้าบ้าน 2 ขวด ภายหลังเกิดอาการน้ำลายฟูมปากก่อนเสียชีวิต ขณะที่ นายศุภชัย สมศรีโย อายุ 37 ปี ลูกชายดื่มน้ำเขียวขวดเดียวกับแม่ เกิดอาการเช่นเดียวกันแต่ไม่รุนแรง ญาติหามส่ง รพ. ล้างท้องจนรอดตายมาได้ เหตุเกิดเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 2 ก.ค. 67 โดยตำรวจส่งศพไปชันสูตรตามขั้นตอนกฎหมาย ก่อนมอบให้ญาติประกอบพิธีฌาปนกิจ เมื่อบ่ายวันที่ 3 ก.ค. 67 ที่วัดทุ่งสว่าง หมู่ 2 ต.อูบมุง อ.หนองวัว จ.อุดรธานี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

น้ำเขียวมรณะ! แม่ซดน้ำลายฟูมปากดับ-ลูกรอด เชื่อวางยาหวังฆ่ายกครัว

เรียกสอบอดีตสะใภ้ปม ‘น้ำเขียวมรณะ’ ลูกคนตายเอะใจวันเกิดเหตุหมาไม่เห่า

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พ.ต.อ.ฉกาจน์ เทียมวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ความคืบหน้าคดี ได้แบ่งเป็น 2 ประเด็ด ซึ่งการเสียชีวิตเป็นแบบผิดธรรมชาติ คือป่วยโรคประจำตัวแล้วเสียชีวิตเอง หรือการถูกวางยา เนื่องจากมีน้ำลายฟูมปาก ซึ่งสันนิษฐานว่าถูกวางยาหรือไม่ เพราะต้องรอผลตรวจอย่างละเอียดจากแพทย์อีกครั้ง

โดยทางตำรวจสันนิษฐานเบื้องตนว่า “ถูกวางยา” จึงได้ดำเนินการเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุ โดยตั้งปมเหตุ 3 เรื่อง คือ 1.ทะเลาะวิวาทในครอบครัว 2.ปัญหาบ้านข้างเคียง และ 3.ประเด็นอื่น ๆ

“…ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่หาที่มาของขวดน้ำอัดลม ว่ามาจากที่ไหน เพราะขวดน้ำอัดลมมีการเปิด แต่การเปิดออกนั้น ไม่ใช่การเปิดแบบใช้มาแล้ว แต่เป็นการเปิดใหม่แล้วปิดเอาไว้ และถุงที่ใส่ก็ใหม่ แสดงว่าเพิ่งซื้อมาแล้วเอามาวางไว้ นอกจากนี้ ยังต้องหาเหตุผลว่า ทำไมผู้ตายถึงมาดื่มกิน ทั้ง ๆ ที่ผู้ตายไม่เคยที่จะดื่มน้ำอัดลม ทางชุดสืบสวนจึงตรวจสอบร้านค้าในพื้นที่ เพื่อหาหมายเลขบาร์โค้ดข้างขวดในการติดตามตัวผู้มาซื้อก่อน เพื่อสาวไปจนถึงตัวคนร้าย…” พ.ต.อ.ฉกาจน์ กล่าว และเผยต่อไปว่า

สำหรับ “กล้องวงจรปิด” เนื่องจากในพื้นที่มีความลำบากในการค้นหา เนื่องจากบ้านผู้ตาย อยู่นอกเขตชุมชนต่างอำเภอ ทำให้มีกล้องน้อยมาก และมีการเรียกพยานบุคคลมาสอบหลายปากแล้ว ระหว่างนี้ได้รอผลตรวจทางวิทยาศาสตร์ในการตรวจสารพิษในกระเพาะอาหาร ในเลือด และขวดน้ำทั้ง 2 ขวด ว่ามีลายนิ้วมือและดีเอ็นเอ ว่าตรงกับใครหรือไม่ ก่อนจะสืบสวนดำเนินการตามขั้นตอน ในส่วนผู้ต้องสงสัยยังไม่มีเพิ่มเติม โดยทางตำรวจขอเวลาในการทำงานสืบสวน และผลตรวจต่างๆ เพื่อหาข้อเท็จจริงก่อน.