เมื่อวันที่ 5 ก.ค. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ภพธร จิตรหมั่น รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์ ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ศิรณวชญ์ อินทรผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.อ.สุรพงษ์ สุขแย้ม ผกก.สน.บางนา พ.ต.ท.เอกภพ ลิขิตธนสมบัติ รอง ผกก.สส.สน.บางนา พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว รอง ผกก.สส.บก.น.5 พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.วิเคราะข่าว บก.สส.บช.น. สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาล ตร.สืบสวน บก.น.5 และ สน.บางนา ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายชนะพันธ์ มั่งมี หรือโบ๊ท พระประแดง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/3 หมู่ 7 ต.บางน้ำผึ้ง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงที่ 383/2567 ลงวันที่ 3 ก.ค. 67 ข้อหา “สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนอันเป็นความผิดฐานซ่องโจร, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว, พาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุอันสมควร, ยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน, ทะเลาะกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะ, ชักหรือแสดงอาวุธในการวิวาทต่อสู้” จับกุมตัวได้ที่ ปากซอยอุดมสุข 12 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กทม.

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. เวลาประมาณ 03.00 น. บริเวณสามแยกไฟแดงลาซาล-แบริ่ง (ตัดใหม่) แขวงบางนาใต้ เขตบางนา กรุงเทพฯ เกิดเหตุกลุ่มชายฉกรรจ์ยกพวกไล่ยิงคู่อริ โดยขี่รถ จยย. ไล่ล่า ก่อนจอดรถกลางถนน ยิงปืนใส่รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ เป็นเหตุให้นายเจษฎา วิริยะ ที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับ เสียชีวิต ต่อมาตำรวจกว่า 100 นาย เปิดปฏิบัติการนำหมายค้นศาลบุกทลายเซฟเฮาส์ แหล่งกบดาน 5 จุด ตรวจยึดอาวุธปืน 38 กระบอก กระสุนกว่า 800 นัด พร้อมยุทธภัณฑ์จำนวนมาก กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้

โดย นายชนะพันธ์ หรือ โบ๊ท พระประแดง ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา พร้อมให้การว่า ตนเองอัดอั้นตันใจอยากจะแจ้งให้สื่อมวลชนทราบว่า แก๊งครู่อริก็ไม่ธรรมดา ที่มีเรื่องกันครั้งนี้ ก็เพราะฝ่ายคู่อริโพสต์เฟซบุ๊กท้าทายว่า กูไม่กลัวมึง เลยทำให้เกิดอารมณ์เดือดดาล และยอมรับว่าตนเองเป็นคนตามภาพกล้องวงจรปิด 1 ใน 2 คน ที่ยืนยิงปืน ซึ่งได้ยิงไป 6 นัด จากนั้นได้หลบหนีและนำปืนไปทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยา ละแวก อ.พระประแดง ส่วนผู้ที่เหนี่ยวไกปืนอีกคนที่นั่งซ้อนท้ายตนเอง ตอนนี้ไม่ทราบว่าไปอยู่ไหนแล้ว โดยหลังเกิดเรื่อง ตนก็ระหกระเหินนอนไม่เป็นที่เพราะกลัวถูกจับกุม

ทั้งนี้ ภายหลังจับกุมขยายผล เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.บางนา ดำเนินคดีต่อไป.