ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ท่าเทียบเรือสหกรณ์ประมงบางจะเกร็ง-บางแก้วจำกัด หมู่ 8 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม นายเจษฎา พุ่มจันทร์ ผอ.สำนักงานคุมประพฤติ จ.สมุทรสงคราม ได้เป็นประธานเปิดกรวยดอกไม้ถวายราชสักการะถวายพระพรชัยมงคลต่อพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานคุมประพฤติ จ.สมุทรสงคราม โดยมีเจ้าหน้าที่สำนักงานฯ อาสาสมัครคุมประพฤติ อบต.บางแก้ว นักเรียนโรงเรียนบ้านบางบ่อ ประชาชนทุกหมู่เหล่า และกลุ่มผู้ก้าวพลาดที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรม ร่วมพิธี

จากนั้นได้นำกลุ่มผู้ก้าวพลาดฯ แสดงพลังการทำความดีเป็นงานบริการสาธารณะเพื่อชดเชยที่เคยกระทำผิด ภายใต้โครงการ “ร่วมใจภักดิ์ รักษ์สิ่งแวดล้อม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567” จากนั้นทั้งหมดได้ร่วมกิจกรรมบริการสังคมสาธารณประโยชน์เก็บขยะบริเวณริมถนนเลียบชายทะเล สายปากมาบ-ดอนหอยหลอด และพื้นที่ใกล้เคียงระยะทาง 800 เมตร โดย อบต.บางแก้ว เจ้าของพื้นที่นำรถขนขยะมานำขยะที่เก็บได้จำนวนมากไปฝังกลบทำลาย

นอกจากนี้ภาคเช้ายังได้นำกลุ่มผู้ก้าวพลาดฯ ศึกษาเรียนรู้เพื่อปลูกต้นกล้าจิตสำนึกให้รักต้นไม้ป่าชายเลนอันเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำและรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นจุดเริ่มต้นการบูรณาการประสานความร่วมมือระหว่างสำนักงานคุมประพฤติ ชุมชน และผู้ก้าวพลาดในการที่จะดำเนินชีวิตร่วมกันในชุมชนโดยปกติสุข ร่วมกันสร้างหน่วยงานยุติธรรมสีเขียว Green Justice ถือเป็นการสร้าง “สีเขียว” ทั้งทางกายภาพและมิติความคิดจิตใจที่โรงเรียนธรรมชาติป่าชายเลน หมู่ 10 ต.บางแก้ว โดยนายวิสูตร นวมศิริ ประธานกลุ่มอนุรักษ์พัฒนาป่าเลน เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องการปลูกและการอนุรักษ์ป่าชายเลน

สรุปว่า เริ่มเมื่อ 20 ปีที่แล้ว สาเหตุเพราะชาวชุมชนริมคลองบางบ่อ ต.บางแก้ว ประสบปัญหาแผ่นดินถูกกัดเซาะจากน้ำทะเล มีบ้านเรือนหลายสิบหลังย้ายถิ่นฐานหนีจนแทบจะรกร้าง ตนในฐานะผู้ใหญ่บ้านขณะนั้นและชาวบ้าน จึงปรึกษาหารือกัน โดยรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระราชปรารภต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นห่วงป่าชายเลนที่ลดน้อยลง เนื่องจากป่าชายเลนมีความสำคัญมากเพราะเป็นความมั่นคงทางระบบนิเวศ เป็นแหล่งเกิด แหล่งอยู่และแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ

ชาวชุมชนจึงร่วมกันจัดตั้งกลุ่มอนุรักษ์พัฒนาป่าชายเลนและสร้างกำแพงไม้ไผ่เพื่อชะลอคลื่น แล้วปลูกป่าชายเลนระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร โดยปลูกต้นโกงกางเป็นด่านใน และต้นแสมเป็นด่านหน้า เนื่องจากต้นแสมมีรากลู่คลื่นให้เบาลงและกักเก็บดินป้องกันการกัดเซาะ อีกทั้งปลูกต้นโกงกางที่มีรากช่วยชะลอความแรงของคลื่นเป็นปราการธรรมชาติและลดแรงปะทะกัดเซาะชายฝั่ง ผลพลอยได้ที่เกิดขึ้นคือสะสมดินเลนและป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์หลังแนวไม้ไผ่ อีกทั้งยังเป็นแหล่งรักษาพันธุ์สัตว์น้ำ เป็นแหล่งเรียนรู้ให้ทุกกลุ่ม โดยเฉพาะเยาวชนที่มุ่งหวังให้สืบทอดจิตสำนึกรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป