เมื่อเวลา 14.49 น วันที่ 4 ก.ค. ที่บ่อน้ำแร่ร้อนรักษะวาริน  อ.เมือง จ.ระนอง นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผวจ.ระนอง เป็นประธาน ในพิธี พลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ เพื่อจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมี นายราชัน มีน้อย ว่าที่ร้อยตรีกิตติภพ รอดดอน รองผวจ.ระนอง ข้าราชการทุกหมู่เหล่า ตุลาการ ศาล ทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และพสกนิกรชาวระนอง เข้าร่วมในพิธี

ทั้งนี้นายนริศ ถวายความเคารพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมเปิดกรวยกระทงดอกไม้ ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะบวงสรวงเพื่อจุดธูปเทียนบูชาในการประกอบพิธีพลีกรรมตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ โดย จุดธูปเทียนบูชาเครื่องสังเวย โปรยข้าวตอกดอกไม้ ก่อนจะส่งธูปให้แก่ผู้บริหารระดับสูง ร่วมปักเครื่องเซ่นสังเวย จากนั้น พราหมณ์ ได้อ่านองค์การบวงสรวงเพื่อบูชาเทพยดา เทพารักษ์ผู้ดูแลรักษาสถานที่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ และผู้ว่าราชการจังหวัดระนองอ่านคาถาพลีกรรมตักน้ำ ก่อนจะ ตักน้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ใส่ขันสาคร โดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดฝาขันสาครห่อด้วยผ้าขาวผูกริบบิ้นสีขาว และเชิญขันสาครและที่ตักน้ำ ประจำรถบุษบก โดยผู้ว่าฯระนองพร้อมด้วยรองผู้ว่าฯระนอง หัวหน้าส่วนราชการ ได้ร่วม ขบวนบุษบก เพื่อเลื่อนไปยังวัดสุวรรณคีรีวิหารพระอารามหลวง สถานที่ประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์

ระหว่างทาง ได้มีพสกนิกรชาวระนอง พร้อมใจสวมใส่เสื้อสีเหลือง ได้เข้าร่วม ชื่นชม ขบวนรถบุษบกที่ขับเคลื่อนผ่าน เส้นทาง ขณะขับเคลื่อน ไปยังวัดสุวรรณคีรีวิหารอย่างล้นหลาม โดยเจ้าหน้าที่ได้เชิญขันสาครและที่ตักน้ำไปยังพระอุโบสถวัดสุวรรณคีรีวิหาร พระอารามหลวง เพื่อประกอบพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ต่อไป

บ่อน้ำพุร้อนรักษะวาริน เป็นน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีอยู่ด้วยกัน 3 บ่อ บ่อใหญ่สุดเป็นบ่อพ่อ ถัดมาก็เป็นบ่อแม่ และ บ่อลูก ทั้ง 3 บ่อตั้งอยู่ใน สวนสาธารณะรักษะวาริน อยู่ห่างกัน 60 เมตร อุณหภูมิน้ำประมาณ 65 องศา ในน้ำประกอบด้วยแร่ธาตุที่มีประโยชน์หลายอย่าง เป็นบ่อน้ำแร่ร้อนแหล่งเดียวในประเทศไทย ที่ไม่มีสารกำมะถันเจือปนอยู่เลย โดยบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ของจังหวัดระนอง ใช้ บ่อพ่อ สำหรับชื่อ “รักษะวาริน” ของน้ำพุร้อนแห่งนี้ เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จย่า เมื่อครั้งเสด็จเยือนระนองในปี พ.ศ. 2510 อันเนื่องมาจากมีการนำน้ำแร่ไปบำบัด รักษาโรค

พิธีพลีกรรมตักน้ำศักดิ์สิทธิ์ งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เป็นพิธีกรรมทางศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู ตามคติความเชื่อของพราหมณ์ถือว่าการยกให้ผู้ใดเป็นใหญ่ทรงสิทธิ์อำนาจนั้นจะต้องทำด้วยพิธีรดน้ำศักดิ์สิทธิ์ โดยใช้น้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำมาทำ “น้ำอภิเษก” และ “น้ำสรงมูรธาภิเษก” พิธีจัดทำน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ต้นปี 67 เนื่องจากพิธีนี้จะต้องใช้น้ำจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด 108 แห่ง โดย 107 แห่งจะมาจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ และ อีก 1 แห่งในหอศาสตราคม พระบรมมหาราชวัง โดยกระทรวงมหาดไทยจะเชิญน้ำพระพุทธมนต์จากทั่วประเทศ ไปทำพิธีปลุกเสกรวม ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม 25 ก.ค.นี้ เพื่อใช้ในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

สำหรับจังหวัดระนอง มีกำหนดจัดพิธีเสกน้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ในวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม 2567 ณ พระอุโบสถ วัดสุวรรณคีรีวิหาร พระอารามหลวง และในวันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม 2567 พิธีเวียนเทียนสมโภชน์น้ำพระพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ต่อไป