เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 4 ก.ค. ร.ต.ท.วชิรพันธ์ เจริญวัย รอง สว.(สอบสวน) สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุกพ่วงชนกับรถ จยย. มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เจ็บ 1 ราย เหตุเกิดบริเวณถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จึงประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุก่อนถึงสะพานต่างระดับหมายเลข 9 ทางเเยกไปสุพรรณบุรี พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อโปโลสีฟ้า กางเกงสเเลคสีดำ มีเลือดออกที่ใบหน้าเป็นจำนวนมาก ทราบชื่อคือ น.ส.นัชชา นิโกรธา อายุ 26 ปี ทำงานที่โรงพยาบาลกรุงไทยเวสเทิร์น ตำเเหน่งแผนกจัดซื้อ ใกล้กันพบรถ จยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่นฟีลาโน่ สีกรม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นของผู้เสียชีวิตล้มคว่ำอยู่ ส่วนคู่กรณีเป็นรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ทะเบียนหัวลาก 83-8705สุพรรณบุรี ท้ายพ่วง ทะเบียน 83-8706 สุพรรณบุรี โดยมีนายสนธยา แสนชู อายุ 48 ปี เป็นคนขับรถ นอกจากนี้ยังมีคนเจ็บเป็นชาย 1 ราย ซึ่งเป็นแฟนของผู้เสียชีวิต และเป็นผู้ขับขี่รถ จยย.ทราบชื่อคือนายณัฐพล ยันตโกเศศ อายุ 33 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มีแผลถลอกตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลกรุงไทยเวสเทิร์น ไปก่อนหน้านี้

นายสนธยา กล่าวว่า ตนเองขับรถบรรทุกข้าวสารไปส่งที่โรงสีย่านพระประแดง กำลังจะตีรถเปล่ากลับ จ.สุพรรณบุรี เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ พบรถจยย.ขี่มาเลน 2 ส่วนตนขับอยู่ในเลนที่ 3 ขณะเดียวกันมีรถเก๋งไม่ทราบหมายเลขทะเบียน ขับอยู่หน้ารถ จยย. จะเบี่ยงซ้ายหรือจะไปทางขวาก็ไม่รู้ ซึ่งตนก็รอให้รถเก๋งเลี้ยวออกทางขวาเพื่อไปกลับรถ จากนั้นก็เร่งความเร็วขับตามปกติ จึงทำให้พุ่งชนรถ จยย. ซึ่งตอนนั้นก็ไม่เห็นว่ารถ จยย.เบียดมาหรือเปล่า

ทางด้าน น.ส.โชษิตา แก้วแจ่มแจ้ง อายุ 24 ปี เพื่อนร่วมงาน กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตทำงานอยู่ฝ่ายจัดซื้ออยู่ที่โรงพยาบาลประมาณ 4-5 เดือน เพิ่งเลิกงานกำลังจะกลับบ้าน โดยผู้เสียชีวิตไม่ได้ขี่รถจยย.เอง แต่แฟนเขามารับ ซึ่งแฟนเขามีบาดแผลถลอกนิดหน่อย รู้สึกตกใจมากที่เพื่อนต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพราะเพิ่งเจอกันก่อนเลิกงานแค่ไม่กี่นาทีที่ผ่านมานี้เอง

ทั้งนี้ กล้องหน้ารถของพลเมืองดีสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะรถบรรทุกพ่วงขับอยู่ในเลนขวาสุด มุ่งหน้าไป จ.สุพรรณบุรี จากนั้นได้เฉี่ยวชนรถ จยย.จนทำให้ล้มคว่ำ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวคนขับรถบรรทุกพ่วงไปสอบสวนที่โรงพัก และจะทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกใกล้เคียงอย่างละเอียดอีกครั้ง จากนั้นมอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อชันสูตรต่อไป.