ทีมฟุตบอลสโมสร พลังกาญจน์ เอฟซี โพสต์โวยเงินชดเชย ที่ได้จาก “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้มาไม่ครบยอด จากที่บอกจะให้ 1 ล้านบาท แต่วันนี้ เลขาฯ ของ มาดามแป้ง ติดต่อมาจะให้ 5 แสนบาท ถือว่าไม่เป็นไปตามข้อตกลง ก็เลยไม่รับ

ข้อความว่า

อะไรครับเนี่ย!!!!!

เรียนคุณนวลพรรณ ล่ำซำ
นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ

ตามที่ทางนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้รับปากด้วยวาจากับทางสโมสรฟุตบอลดราก้อน ปทุมวัน เอฟซี เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเลื่อนการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศรายการช้างเอฟเอคัพ เพื่อที่จะให้ทีมชาติไทยได้มีเวลาเก็บตัวมากขึ้นนั้น เดิมทีทางเลขาฯ คุณนวลพรรณ รับปากกับทีมสโมสรว่าจะชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจำนวนเงินหนึ่งล้านบาทและทาง สโมสรได้แจ้งผู้บริหารระดับสูงและแฟนบอลไปแล้วดังนั้น ตามที่เลขาฯ คุณนวลพรรณแจ้งมาวันนี้ ว่าทางคุณนวลพรรณ และบริษัทเมืองไทยประกันภัยจะชดเชย ให้สโมสรเป็นจำนวนเงิน 500,000 บาท ทำให้ทางสโมสรไม่สามารถชี้แจงกับผู้บริหารระดับสูง แฟนบอลและสาธารณชนได้ สโมสรจึงไม่สะดวกในการขอรับเงิน 500,000 บาท ที่ไม่ตรงกับข้อตกลงเดิม และทางสโมสรมีความจำเป็นต้องแจ้งกับแฟนบอลและสาธารณะเพื่อจะไม่โดน ข้อกล่าวหาในการบริหารที่ไม่ โปร่งใส ทางสโมสรยืนยันว่าได้รับข้อเสนอเงินชดเชยจำนวนเงินหนึ่งล้านบาทตามที่ทางนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้แจ้งผ่านเลขาฯ มาจริง และไม่สามารถรับเงิน 500,000 บาท ซึ่งไม่ตรงตามที่รับปากไว้

จึงขอขอบคุณในความปรารถนาดีของทางสมาคมและเพื่อยืนยันไม่ให้เกิดข้อครหาจึงไม่สามารถรับเงินจำนวนนี้ได้

นับเป็นการโพสต์ทวงเงินคนระดับ นวลพรรณ ล่ำซำ ผ่านโซเชียลก็ว่าได้ แต่มนจุดหนึ่งก็คือ ไม่ได้มีการนำเสนอหลักฐานใดๆ ประกอบ

แล้วเงินชดเชยนี้มาจากไหน ทำไม มาดามแป้ง ต้องจ่ายให้ แล้วพลังกาญจน์ เอฟซี ทำไมต้องได้

ที่มาเป็นแบบนี้

พลังกาญน์ เอฟซี ก็คือ ดราก้อน ปทุมวัน กาญจนบุรี เอฟซี (ดีพี กาญจนบุรี) ทีมไทยลีก 2 ที่สร้างประวัติศาสตร์เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอคัพ ฤดูกาลล่าสุด พบ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด (ก่อน ทรู แบงค็อก ชนะจุดโทษ)

โปรแกรมเดิม คู่ชิงเอฟเอคัพ จะต้องเตะ วันที่ 22 มิ.ย.67 อย่างไรก็ตาม เพื่อให้สอดคล้องกับการปิดฤดูกาลบอลไทยลีก ไม่เว้นนานเกินไป จึงเลื่อนมาเตะ วันที่ 1 มิ.ย. 67 คิวนี้ กระแสว่า ทรู แบงค็อก ขอเลื่อน ก็ถือว่าเข้าใจตรงกัน แฟนบอลเริ่มเตรียมการเพื่อมาเชียร์ทีมรัก ซึ่งเตะที่ ดราก้อน โซลาร์ ปาร์ค จ.ราชบุรี

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทีมชาติไทย มีโปรแกรมแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก วันที่ 6 และ 11 มิ.ย. 67 จึงมองว่าทีมชาติไทย ควรได้นักเตะซ้อมเต็มที่ ยิ่งมีข่าว บอลรีโว่คัพ บีจี ปทุม พบ เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็อยากขยับมาเตะปลายเดือน พ.ค. 67 บ้าง เริ่มมีกระแสดราม่าหนัก

สุดท้าย สมาคมฯ ประกาศเลื่อนอีกครั้ง โดย เอฟเอคัพ กลับไปวันที่ 22 มิ.ย. 67

แต่!!!…คิวใหม่นี้ ผู้บริหารทีม ดีพี กาญจนบุรี ไม่ยอมเตะตามกำหนดวันที่ 22 มิ.ย.67 ยืนยันต้องการเตะวันที่ 1 มิ.ย. 67 ถ้าจะเตะวันที่ 22 มิ.ย. ขอยอมแพ้

อย่างไรก็ตาม บทสรุป พบกันครึ่งทาง รอบชิงเอฟเอคัพ สรุปว่า เตะวันที่ 15 มิ.ย. 67 (ต่อด้วยรอบชิง รีโว่ คัพ บีจี ปทุม – เมืองทอง 16 มิ.ย. 67)

การสรุปเลื่อนจาก 1 เป็น 15 มิ.ย. มีรายงานข่าวว่า ทาง มาดามแป้ง ตกลงกับ ดีพี กาญจนบุรี ว่า ยินดีจ่ายเงินชดเชยให้ เพื่อใช้เป็นทุนในการเก็บตัวฝึกซ้อมนักกีฬา ที่ต้องยืดระยะเวลามากขึ้น จ่ายเบี้ยเลี้ยง เงินเดือนมากขึ้น หลังปิดฤดูกาลบอลลีกไปแล้ว ข่าวนี้ไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการ ไม่มีการเปิดเผยจากฝั่ง มาดามแป้ง

กระทั่งบอลเตะจบไปแล้ว ดีพี กาญน์ ได้รองแชมป์ รับเงิน 1 ล้านบาท

แต่ล่าสุดวันนี้ พลังกาญจน์ (ชื่อใหม่ของ ดีพี กาญจน์) ก็โพสต์ว่า อ้างว่าจำนวนเงินที่ตกลงกันไว้กับ มาดามแป้ง ในการเลื่อนรอบชิงเอฟเอคัพ คือ 1 ล้านบาท แต่สุดท้ายจะให้ 5 แสนบาท ผิดจากที่คุยกัน จึงไม่ขอรับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เงินชดเชย ที่ มาดามแป้ง จะให้ ดีพี กาญจน์ นั้น คือ “เงินสนับสนุน” จาก บมจ.เมืองไทย ประกันภัย ไม่ใช่ของ สมาคมลูกหนัง

ขณะเดียวกัน ล่าสุด เวลาประมาณ 19.10 น. วันที่ 4 ก.ค. ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ในฐานะโฆษกสมาคมฟุตบอล โพสต์ชี้แจง

สวัสดีครับ ผม นาวาอากาศเอก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ในนามโฆษกของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

ขออนุญาตใช้พื้นที่ส่วนตัว ชี้แจงเกี่ยวกับการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ในประเด็นตามที่ สโมสรพลังกาญจน์ เอฟซี แถลงการณ์ออกมา และ ต้องอภัยสโมสรฯ ในความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน โดยใช้พื้นที่นี้เพียงแค่ต้องการให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น และ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับสมาคมฯ ครับ 

“เรื่องนี้ ต้องแยกเป็นสองประเด็น ประเด็นแรก คือ นายกสมาคมฯ ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นและไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ในการพูดคุยหรือ รับปากด้วยวาจากับทาง สโมสร พลังกาญจน์ เอฟซี ในเรื่องที่จะมอบค่าใช้จ่าย จำนวนเงิน 1 ล้านบาท อีกทั้งตาม ระเบียบข้อบังคับของสมาคมฯ ก็ไม่สามารถทำได้ที่ตัวของ นายกสมาคมฯ หรือ สมาคมฯ จะมอบเงินให้กับทีมใดทีมหนึ่ง เพื่อให้เข้าร่วมแข่งขันฟุตบอลนัดใดนัดหนึ่ง”

“ส่วนตัวผม โดยเท่าที่ได้สอบถาม พบว่าบุคคลที่ได้พูดคุยเรื่องดังกล่าว เป็นหนึ่งในทีมงานของ ท่านนายกฯ ที่หวังดีและพยายามหาทางออกให้กับสโมสรในช่วงเวลานั้น แต่รูปแบบของการชดเชยที่พูดไว้ เป็นในเชิง ให้การสนับสนุนทีมในฐานะสปอนเซอร์ ระหว่างบริษัทหนึ่ง กับ สโมสรเท่านั้น โดยจะมีการสนับสนุนในฤดูกาลถัดไป ตามรูปแบบปกติของบริษัททั่วไป ซึ่งตรงนี้การพูดคุยในรายละเอียดกันอาจมีความคลาดเคลื่อน หรือ ทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน ซึ่งตรงนี้อาจทำให้สโมสร พลังกาญจน์ เอฟซี มีความเข้าใจคลาดเคลื่อน“

“ประเด็นที่สอง ในฐานะของสมาคมฯ การสื่อสารต่างๆ หรือการทำข้อตกลงต่างๆ กันสโมสร หรือ องค์กรต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ จะต้องเป็น นายกสมาคมฯ เลขาธิการสมาคมฯ โฆษกสมาคมฯ สภากรรมการ หรือ บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งและมอบหมายในภารกิจนั้นๆ เท่านั้น ซึ่งต่อจากนี้กฎระเบียบต่างๆ ของสมาคมฯ จะถูกนำมาใช้เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหาย และทำให้สโมสรสมาชิกเข้าใจผิดหรือคลาดเคลื่อนอีกต่อไป”

“ในนามของโฆษกสมาคมฯ ขอยืนยันอีกครั้งว่า สมาคมฯ ไม่มีนโยบายจ่ายเงินให้ทีมใดทีมหนึ่ง เพื่อเข้าร่วมแข่งขัน เพราะมิเช่นนั้นแล้วก็ต้องจ่ายทีมอื่นๆ ด้วย แต่เรามีนโยบายที่จะพัฒนาฟุตบอล ไทยให้เจริญก้าวหน้า ทั้ง องคาพยพ และมีนโยบายที่จะให้สโมสรฟุตบอลได้รับเงินสนัสนุนอย่าง เต็มความสามารถ ตามความตั้งใจของ นายกสมาคมฯ และ สมาคมฯ ทั้ง ไทยลีก 1 ไทยลีก 2 ไทยลีก 3 และทีมชาติไทย เพื่อให้ทุกสโมสรสมาชิกภายใต้ สมาคมฯ เดินหน้าต่อไป เช่นเดียว กับภาพรวมของวงการฟุตบอลไทย”  

“อะไรที่ไม่ดี หรือ ทำให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ถือเป็นบทเรียนที่ต่อไปจะต้องไม่ให้เกิดขึ้น อีก และ ผมต้องขออภัย สโมสร พลังกาญจน์ เอฟซี อีกครั้ง ที่เกิดเรื่องที่ทำให้เข้าใจคลาดเคลื่อนในครั้งนี้ สุดท้ายนี้สมาคมฯ ของยืนยันว่าจะร่วมมือกับทุกสโมสรพัฒนาวงการฟุตบอลไทยต่อไป ขอบคุณครับ”