น.ส.อภิรมณ อุไรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สถาบันอาทิตย์ อุไรรัตน์ หรือ AOI เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนไทยเข้าถึงโรงเรียนนานาชาติหรืออินเตอร์เพียงแค่ 1% เท่านั้น เพราะถูกจำกัดด้วยเงินค่าเล่าเรียนที่สูงถึงปีละประมาณ 900,000 บาท ขณะที่โรงเรียนสอนภาษาระดับนานาชาติของภาครัฐ ก็มีการสอบแข่งขันสูงมากและรับเด็กนักเรียนในจำนวนจำกัด จนเกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาไทยค่อนข้างสูง นักเรียนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ

ทั้งนี้ สถาบันอาทิตย์จึงเห็นโอกาสดังกล่าว โดยมุ่งเปิดการเรียนการสอนระดับนานาชาติตั้งแต่ระดับอนุบาล-มัธยมปลาย ที่ให้เด็กไทยเข้าถึงง่ายขึ้นด้วยค่าเล่าเรียนที่ถูกกว่าโรงเรียนอินเตอร์ 30-50% หรือปีละประมาณ 200,000-300,000 บาท และหลักสูตรการเรียนเทียบเท่านานาชาติสามารถเข้าศึกษาต่อได้ทั่วโลก จากปัจจุบันเปิดมากว่า 20 ปี มีโรงเรียนทั้งหมด 3 แห่ง นักเรียนทั้งหมด 3,000 คน ประกอบด้วย โรงเรียนนานาชาติบริติช ภูเก็ต (BISP) ส่วนใหญ่ 80% เป็นนักเรียนชาวต่างชาติจาก 60 สัญชาติ อาทิ รัสเซีย อเมริกา อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์, โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต (SBS รังสิต), โรงเรียนสาธิตนานาชาติทวิภาษาแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต เชียงใหม่ (SIBS เชียงใหม่) สอนภาษาไทย อังกฤษ และจีนแมดาริน

นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดแห่งที่ 4 โรงเรียนสาธิตเอสบีเอส กรุงเทพ (SBS กรุงเทพ) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างก่อสร้าง บนพื้นที่ 10 ไร่ ย่านลาดกระบัง รองรับนักเรียน 800 คน พร้อมเปิดในปีการศึกษา 2568 เป็นโรงเรียนหลักสูตรอินเตอร์สองภาษาเชนแรกในไทย เน้นเจาะกลุ่มนักเรียนไทยเป็นหลัก จากนั้นใน 3-5 ปี มีแผนจะเปิดโรงเรียนเพิ่มอีก 1 แห่ง ในภาคอีสาน เพื่อเจาะนักเรียนไทยในท้องถิ่น และประเทศเพื่อนบ้าน อย่างเมียนมา ที่ขณะนี้นิยมส่งบุตรหลานเข้ามาเรียนโรงเรียนอินเตอร์ในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

“แม้ว่าปัจจุบันผู้ปกครองหลายท่านเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลต่อกำลังซื้อการส่งลูกหลานเรียนต่อในโรงเรียนอินเตอร์ที่มีค่าเล่าเรียนสูงอาจเป็นภาระหนักเกินไป แต่ผู้ปกครองหลายท่านก็ยังให้ความสำคัญกับการศึกษา ต้องการให้บุตรหลานได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ เตรียมความพร้อมสำหรับอนาคต โรงเรียนนานาชาติสองภาษา จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการ”

เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งในตลาด ที่มีการแข่งขันสูง บริษัทยังได้ปรับโครงสร้างการบริหารงาน โดยรวมการบริหารงานของทุกสถาบันมาอยู่ภายใต้การบริหารของ  AOI ซึ่งจะช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร คณาจารย์ โครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นสูงร่วมกัน เอื้อประโยชน์สูงสุดต่อนักเรียนทุกคน เช่น ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ (Medical Science Center) ศูนย์นวัตกรรม (Innovation Center) และสิ่งอำนวยความสะดวกทางกีฬาเฉพาะทาง สิ่งเหล่านี้ช่วยส่งเสริมประสบการณ์การศึกษา และเป็นการสร้างเครือข่าย เชื่อมความสัมพันธ์อันดีต่อกัน