ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำ ที่ในปัจจุบันกลายเป็น “เอเลี่ยนสปีชีส์” หรือสิ่งมีชีวิตต่างถิ่นที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วและทำลายสัตว์น้ำประจำถิ่น ตามแหล่งน้ำธรรมชาติหรือบ่อเลี้ยงสัตว์น้ำของเกษตรกร สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวประมงอย่างหนักในพื้นที่ 16 จังหวัดทั่วประเทศ โดยในส่วนของจังหวัดนครศรีธรรมราช ทางสหกรณ์ผู้เสียงกุ้งปากพนัง ชมรมผู้เลี้ยงกู้สงขลา-นครศรี ได้จัดงบประมาณสนับสนุนการปฏิบัติการกำจัดปลาหมอคางดำ ในบ่อบำบัดน้ำเสียบริเวณบ่อบำบัดน้ำเสียเนื้อที่ 184 ไร่ ของโครงการชลประทานเพื่อการเลี้ยงกุ้งทะเลบ้านหน้าโกฐิ หมู่ 10 ต.ขนาบนาก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 14 ก.ค. 67 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ตามที่เสนอข่าวไปต่อเนื่องแล้วนั้น

เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางประมงจังหวัดได้ส่งข้อความประชาสัมพันธ์โครงการกำจัดปลาหมอคางดำ ในวันที่ 14 ก.ค. นี้ อาทิ ประกาศจับตาย คดีแดงที่ 14/06/2567, ปราบวายร้ายแห่งลุ่มน้ำ กำจัดให้สิ้นซาก พร้อมรับซื้อ, แข่งขันไล่ล่าปลาหมอคางดำ, รับประทานเมนูปลาหมอคางดำฟรี เป็นต้น ซึ่งได้สร้างความสนใจจากนักตกปลา นักล่าปลาทั่ว จ.นครศรีธรรมราช และพื้นที่ใกล้เคียง

สำหรับในพื้นที่ดำเนินการฯ ในโครงการชลประทานเพื่อการเลี้ยงกุ้งทะเลบ้านหน้าโกฐิ เนื้อที่ 184 ไร่ ที่จะดำเนินการระดมจับปลาหมอคางดำในวันที่ 14 ก.ค. ตั้งแต่เวลา 13.00 น. นั้น จากการตรวจสอบพบว่าในหลายจุดคงไม่สามารถทอดแห หรืออวนลากได้ เนื่องจากมีวัสดุอยู่ใต้น้ำจำนวนมาก เป็นปัญหาและอุปสรรคในการต่อการดำเนินการทอดแหและวางอวนลาก จึงต้องใช้วิธีการท้วม คือวางอวนและใช้ไม้หรือวัสดุใดๆ ก็ได้ไล่ตีน้ำบริเวณโดยรอบ เพื่อให้ปลาหมอคางดำ ตกใจและว่ายออกจากที่รกที่ซ่อนตัวอยู่มาชนอวนที่ดัก และติดอวนของชาวบ้านที่วางดักเอาไว้ ก็จะสามารถจับปลาหมอคางดำได้ โดยผู้ที่จับได้ทุกคน ทุกทีม จะต้องนำมาชั่งกิโลเพื่อจะได้รวบรวมว่าในวันดังกล่าว จับปลาหมอคางดำได้รวมกี่กิโลกรัมหรือกี่ตัน เมื่อช่างน้ำหนักเสร็จแล้วจะขายหรือแยกขาย หรือนำกลับไปประกอบอาหารบริโภคในครัวเรือนก็ได้ตามความต้องการ คาดว่าในวันดังกล่าว น่าจะได้ปลาหมอคางดำไม่น้อยกว่า 2 ตัน อย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ในส่วนของจุดรับซื้อ ขณะนี้ทางโครงการพัฒนาลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) นายปัญญพงษ์ สงพะโยม หัวหน้าฝ่ายขยายผล ศูนย์อำนวยการและประสานการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนัง กล่าวว่า ตามปกติทาง กปร. จะรับซื้อแค่วันละ 100-200 กก. เท่านั้น นำไปทำปุ๋ยหมักและน้ำชีวภาพ แต่ในวันที่ 14 ก.ค. นั้น จะรับซื้อมากถึง 1 ตัน แบบคละไซซ์ กก.ละ 10 บาท ในขณะที่นายประทีป น้ำขาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ขนาบนาก อ.ปากพนัง ได้แจ้งในที่ประชุมเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ว่า จะรับซื้อโดยการกำหนดไซซ์ใหญ่ขนาด 10-14 ตัว/กก. กก.ละ 20 บาท ในวันที่ 14 ก.ค. หากผู้ที่ร่วมจับปลาหมอคางดำจับได้จำนวนมาก ก็สามารถคัดแยกขาย โดยไซซ์ใหญ่ก็ขายตนในราคา กก.ละ 20 บาท โดยจะรีบซื้อในวันที่ 14 ก.ค. อย่างน้อย 1 ตัน ส่วนไซซ์ขนาดเล็กก็นำไปขายใน กปร. กก.ละ 10 บาท อย่างไรก็ตาม ทราบว่าโรงงานปลาป่นในพื้นที่เขาจะรับซื้อแบบคละไซซ์ กก.ละ 5-6 บาทเท่านั้น

ขณะที่ นายไพโรจน์ รัตนรัตน์ สมาชิกสภาเกษตรกรจังหวัดนครศรีธรรมราช นายบุญเยียน รัตนวิชา ประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มปากพนัง นายประทีป น้ำขาว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.ขนาบนาก นายณัฐพงศ์ นาคคำ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 7 ต.ขนาบนาก ซึ่งรับผิดชอบในการประสานงานเตรียมการในพื้นที่ทั้งการจัดเตรียมเรือพาย เรือหางยาว และเครื่องมือจับสัตว์น้ำ ได้ประสานงานดำเนินการในพื้นที่เกือบครบสมบูรณ์แล้ว โดยจะมีชาวบ้านในพื้นที่รับทำขนมจีน ทำน้ำแกงขนมจีนด้วยปลาหมอคางดำ เพื่อมาจัดเลี้ยงผู้ร่วมกิจกรรมให้เพียงพอประมาณ 200 คน โดยจะมีการทำแกงเคยปลาที่ทำจากปลาหมอคางดำ มาราดกินขนมจีนด้วย นอกจากนี้ จะมีการทำเมนูอื่นๆ เช่น ปลาหมอคางดำแดดเดียว ปลาเปรี้ยว และอื่นๆ อีกหลายเมนู

นายไพโรจน์ กล่าวว่า ปัญหาในการระดมกำลังกำจัดปลาหมอคางดำ คือ เรื่องงบประมาณ เนื่องจากกรมประมง และหน่วยราชการไม่มีงบประมาณสนับสนุน โดยในวันที่ 14 ก.ค. นั้น ได้รับงบจากภาคเอกชนทั้งสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มปากพนัง และชมรมผู้เลี้ยงกุ้งสงขลา-นครศรี ให้การสนับสนุนงบประมาณ รวม 23,000 บาท คงไม่เพียงพอ ทางสมาชิกสหกรณ์ฯ และสมาชิกชมรมฯ คงต้องควักกระเป๋าใช้เงินส่วนตัวมาสนับสนุนเพิ่มเติม หากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน หรือประชาชนต้องการจะร่วมสนับสนุนงบประมาณดำเนินการกำจัดปลาหมอคางดำในวันที่ 14 ก.ค. นี้ แจ้งความประสงค์และร่วมสนับสนุนได้ที่ นายบุญเยียน รัตนวิชา ประธานสหกรณ์ผู้เลี้ยงกุ้งลุ่มปากพนัง

นายไพโรจน์ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 14 ก.ค. นี้ นอกจากการปฏิบัติการไล่ล่าจับปลาหมอคางดำ จะมีการจัดเสวนาทางวิชาการเกี่ยวกับปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ โดยมีนายไพฑูรย์ อินทศิลา สื่ออาวุโสจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นผู้ดำเนินการเสวนา พร้อมถ่ายทอดสดทางสื่อโซเชียลอย่างกว้างขวางอีกด้วย.

ขอบคุณภาพ สำนักงานประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช