กรณีมีผู้โพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิด เหตุการณ์เด็กหญิงวัย 3 ขวบ วิ่งออกไปที่ถนนใหญ่ ก่อนที่จะมีพลเมืองดีเห็นเข้าแล้วพุ่งเข้าไปคว้าตัวเด็กน้อยไว้ได้ทัน รอดจากถูกรถชน เหตุเกิดที่ถนนสายนครหลวง-บ่อโพง ต.ปากจั่น อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วงปากซอยวัดละมุด

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และได้พูดคุยกับ น.ส.วิมล อายุ 26 ปี แม่ของน้องนิว เด็กหญิง 3 ขวบ พร้อมเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยน้ำตา ว่า ตนกับลูกพักที่หอพักห่างจากจุดเกิดเหตุราว 200 เมตร วันที่เกิดเหตุตนเห็นว่าลูกสาวนอนหลับอยู่ จึงออกไปซื้อก๋วยเตี๋ยวที่ร้านที่อยู่ไม่ห่างจากหอพัก โดยปิดประตูหน้าห้องไว้ หลังจากออกไปได้ไม่ถึง 5 นาที ตนก็ได้ยินเสียงคนตะโกนร้องโวยวายว่าเด็กจะถูกรถชน ตอนแรกก็ยังไม่รู้ว่าเป็นลูกสาวของตนเองจึงหันมามอง เห็นว่าเด็กอยู่ในลักษณะไม่ใส่เสื้อผ้า จึงแน่ใจว่าเป็นลูกสาวตนจึงรีบไปอุ้มขึ้นมา ก็รู้สึกตกใจมากเนื่องจากว่าลูกหลับอยู่ในห้อง แต่ไม่คิดว่าลูกจะตื่นขึ้นมาและวิ่งตามออกมาถึงหน้าปากซอย

“หลังจากนี้ไปก็คงเป็นอุทาหรณ์ ว่าไม่ควรที่จะปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพัง หากลูกหลับอยู่ก็จะไม่ปล่อยให้คลาดสายตาของแม่ พร้อมทั้งขอบคุณพลเมืองดีที่ช่วยน้องนิวเอาไว้ หากน้องถูกรถชน คงใจสลายและไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อ” น.ส.วิมล กล่าว

ประดิษฐ์ เกตุประดิษฐ์ พลเมืองดี

ขณะที่ นายประดิษฐ์ เกตุประดิษฐ์ อายุ 52 ปี นักการภารโรงของ สภ.นครหลวง พลเมืองดีที่ช่วยน้องนิวไว้ เปิดเผยว่า ตนเองได้แวะไปทานก๋วยเตี๋ยวตรงบริเวณจุดเกิดเหตุ จังหวะนั้นได้ทานก๋วยเตี๋ยวเสร็จ กำลังจะรอข้ามถนน จากนั้นมีป้าที่จอดรถอยู่ฝั่งตรงข้ามตะโกนขึ้นมาว่าระวังรถ ตนจึงหันไปเห็นหนูน้อยวัยสามขวบกำลังวิ่งพรวดออกไปที่ถนนด้วยความเร็ว ตนตัดสินใจวิ่งไปคว้าหนูน้อยไว้ได้ทัน ซึ่งตนได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกบริเวณหลังมือข้างขวากระแทกกับพื้นปูนจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว แต่ก็ไม่เป็นไร.