สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ว่า ข้อมูลจากศาลสิงคโปร์และสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำสิงคโปร์ ระบุตรงกัน ว่าศาลพิพากษาให้นายอิกโกะ คิตะ ช่างทำผม วัย 38 ปี ต้องรับโทษจำคุกเป็นเวลา 17 ปีครึ่ง และถูกเฆี่ยนอีก 20 ครั้ง ฐานก่อเหตุข่มขืนหญิงสาว ซึ่งในวันเกิดเหตุมีอายุ 20 ปี และเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เมื่อเดือน ธ.ค. 2562


ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ แต่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า คิตะถือเป็นพลเมืองญี่ปุ่นคนแรก ซึ่งต้องรับโทษด้วยการเฆี่ยน ตามกฎหมายของสิงคโปร์ ที่ยังคงใช้วิธีลงโทษทางกายกับผู้กระทำผิดในคดีอาญา ที่รวมถึง การลักขโมย การทำลายทรัพย์สินสาธารณะ และคดีความเกี่ยวข้องกับยาเสพติด


ขณะที่เนื้อหาบางส่วนจากสำนวนของอัยการ และเอกสารของศาล ระบุว่า คิตะพบกับผู้เสียหายที่ย่านคลาร์กคีย์ ฝ่ายหญิงไม่รู้จักคนร้ายมาก่อน แต่ตอนนั้นเธออยู่ในอาการมึนเมาอย่างหนัก และคิตะพาผู้เสียหายไปยังที่พักของตนเอง และก่อเหตุข่มขืนที่นั่น โดยมีการถ่ายคลิปและส่งต่อไปให้เพื่อนคนหนึ่งด้วย


ด้านผู้เสียหายอาศัยจังหวะหลบหนีออกจากอพาร์ตเมนต์ของคนร้าย เธอแจ้งความกับตำรวจทันที ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวคิตะได้ในวันนั้น และผู้ต้องหาอยู่ในความควบคุมของเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งถึงวันที่ศาลประกาศคำพิพากษา


คดีความของคิตะได้รับความสนใจอย่างมากจากสื่อมวลชนและสังคมออนไลน์ของญี่ปุ่น ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์บทลงโทษเฆี่ยนแตกต่างกันออกไป โดยมีทั้งฝ่ายที่แสดงความตกตะลึง ว่าประเทศที่เจริญแล้วอย่างสิงคโปร์ ยังคงมีบทลงโทษเช่นนี้ และมีความเห็นบางกระแสว่า “สมควรแล้ว” และเรียกร้องว่า ญี่ปุ่นควรมีบทลงโทษผู้ก่อเหตุประทุษร้ายทางเพศให้เข้มงวดกว่านี้ด้วย


อนี่ง ข้อมูลจากองค์กรความยุติธรรมแห่งการเปลี่ยนแปลง (ทีเจซี) ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรอิสระของสิงคโปร์ ระบุว่า ไม้ที่เจ้าหน้าที่สิงคโปร์ใช้เฆี่ยนเพื่อลงโทษผู้ต้องหา มีความยาวประมาณ 1.5 เมตร และเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 1.27 เซนติเมตร


บทลงโทษเฆี่ยนของสิงคโปร์ เป็นที่กล่าวถึงและจับตาไปทั่วโลก เมื่อมีการลงโทษเฆี่ยนนายไมเคิล เฟย์ พลเมืองสหรัฐวัย 19 ปี จำนวน 6 ครั้ง ฐานทำลายทรัพย์สินของรัฐ เมื่อปี 2537 แม้ประธานาธิบดีบิล คลินตัน ผู้นำสหรัฐ ขอให้เปลี่ยนบทลงโทษเป็นแบบอื่นก็ตาม.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES