เมื่อวันที่ 3 ก.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” ว่า จากกรณีที่นายชาญ พวงเพ็ชร์ ได้รับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ปทุมธานี และอยู่ในระหว่างถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด และฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ซึ่งศาลฯประทับรับฟ้องแล้ว จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งเข้ามา และเมื่อ กกต.รับรองผลการเลือกตั้งแล้ว นายชาญจะดำรงตำแหน่งนายก อบจ.ปทุมธานี แต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.ได้ ซึ่งทำให้เกิดผลเสียหายต่อการบริหารงานของ อบจ.ปทุมธานี และประชาชนทั้งจังหวัดจะได้รับผลกระทบในการหยุดปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้โดยตรง สังคมจึงต้องตั้งคำถามว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ระหว่างนายชาญกับพรรคเพื่อไทย ที่มีมติส่งลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรค

นายเทพไท ระบุอีกว่า นอกจากนี้ ทำไมไม่มีการนำข้อเท็จจริงของเรื่องนี้มาชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวจังหวัดปทุมธานีที่มีสิทธิเลือกตั้งหรืออย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งคู่แข่งอย่าง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ไม่ได้ปราศรัยอธิบายว่าถ้าเลือกนายชาญเป็นนายก อบจ.ปทุมธานีแล้ว ผลที่เกิดขึ้นทางกฎหมายจะเป็นอย่างไร ทำไมทุกฝ่ายปกปิดความจริง ดังนั้น การที่ชาวจังหวัดปทุมธานีเลือกนายชาญเป็นนายก อบจ. จึงไม่ต่างอะไรกับการซื้อรถยนต์มาหนึ่งคันแต่รถถูกอายัดไว้ ไม่สามารถใช้ขับขี่ได้ ซึ่งเป็นการเสียเงินเปล่า ไม่ได้ใช้งาน เช่นเดียวกับกรณีของนายชาญที่ได้รับเลือกเข้ามาแล้ว แต่ไม่สามารถทำงานให้ประชาชน และแม้แกนนำพรรคเพื่อไทยปกป้องว่าไม่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่อัตโนมัติ เพราะศาลฯยังไม่ได้สั่ง และกกต.ไม่ได้ฟันว่าขาดคุณสมบัติ อีกทั้งไม่ต้องทำตามความเห็นของคณะกรรมกฤษฎีกาทุกเรื่อง ซึ่งเป็นเรื่องแปลกประหลาดมากที่คนในรัฐบาลไม่ยอมรับฟังความเห็น และไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาล

“ขอยกตัวอย่างกรณีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. สมัยที่ 2 ในวันที่ 5 ต.ค. 2551 เมื่อถูก ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดคดีรถดับเพลิง โดยยังไม่ได้ยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเลย นายอภิรักษ์ก็ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นผู้ว่าฯ กทม. เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2551 ทั้งที่คดีรถดับเพลิงเกิดขึ้นในสมัยนายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ว่าฯ กทม. และเรื่องมาสำเร็จในสมัยนายอภิรักษ์เป็นผู้ว่าฯ กทม.สมัยแรก ซึ่งสามารถเทียบเคียงกับกรณีของนายชาญได้ แต่มาตรฐานจิตสำนึกและความรับผิดชอบทางการเมืองของพรรคที่สังกัดแตกต่างกัน พรรคเพื่อไทยในฐานะต้นสังกัด และเป็นผู้อนุมัติส่งให้นายชาญลงสมัครรับเลือกตั้ง จะต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองต่อชาว จ.ปทุมธานี” นายเทพไท ระบุ