เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 67 ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ถนนนนทบุรี ต.ท่าทราย อ.เมืองนนทบุรี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) นำเอกสาร ประกอบด้วยแฟ้มใหญ่ 2 แฟ้ม แฟ้มเล็ก 2 แฟ้ม เข้ายื่นต่อ ป.ป.ช. ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ระบุว่า วันนี้มา ป.ป.ช. มีวัตถุประสงค์ 2 เรื่อง คือ เป็นการยื่นหลักฐานเพิ่มเติมคดีเว็บไซต์พนันออนไลน์ ที่ สน.เตาปูน เป็นเจ้าของคดี โดยนำเอกสารมายื่นทั้งหมด 4 แฟ้มใหญ่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

‘บิ๊กโจ๊ก’ บุก ‘ปปง.’ เบรกรับหลักฐานคดีเว็บพนัน เปรยคำคม ‘ถ้าต้นไม้เป็นพิษผลไม้ก็เป็นพิษ’

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุอีกว่า คดีนี้อยู่ในชั้น ป.ป.ช. ทำให้สถานะตนเปลี่ยนจากผู้ต้องหาเป็นผู้ถูกตรวจสอบ หาก ป.ป.ช. ตรวจสอบแล้วพบว่าตนมีความผิด ก็ต้องมีการแจ้งข้อกล่าวหาไปตามขั้นตอน แต่หาก ป.ป.ช. ไม่พบความผิด ก็ถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งวันนี้เอาพยานหลักฐานมาชี้แจงเพื่อหักล้างข้อกล่าวหา ส่วนคดีที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ทราบว่า มีการยื่นฟ้องลูกน้องตนทั้งหมด 8 นาย ไปยังศาลอาญาแผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งทราบว่าทางอัยการตีสำนวนกลับมา เพราะคดีไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของตำรวจ โดยพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ส่งสำนวนของลูกน้องตัวเองมายัง ป.ป.ช. แล้ว วันนี้ใครทำอะไรต้องรับผลไปตามนั้น การสอบสวนต้องชอบด้วยกฎหมาย ถ้าไม่ชอบ ไม่สามารถนำเข้าสู่สำนวนได้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เรื่องต่อมาคือประเด็นการกล่าวหา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยยื่นกล่าวหาไปแล้วครั้งหนึ่งนั้น หากพิจารณาตาม พ.ร.บ.ตำรวจ การพิจารณาตำแหน่ง ผบ.ตร. ต้องยึดตามหลักการสอบประเด็นคือเรื่องของความอาวุโสและความรู้ประสบการณ์ด้านการสืบสวนสอบสวนและการป้องกันและปราบปราม แต่ในวันพิจารณาดังกล่าว ตนได้ฟังในคลิปที่นายกรัฐมนตรี แถลงต่อสื่อ ให้เหตุผลในการแต่งตั้ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็น ผบ.ตร. เพราะสามารถตอบสนองนโยบายรัฐบาลได้ และเป็นที่ไว้วางใจของรัฐบาล ซึ่งสิ่งนี้ไม่ได้เป็นไปตามหลักกฎหมายของ พ.ร.บ.ตำรวจ จึงมองว่า ถ้าเป็นแบบนี้ องค์กรนี้ก็ไม่ต้องใช้ พ.ร.บ.ตำรวจฉบับนี้

‘วิษณุ’ เตือน ‘บิ๊กโจ๊ก’ ไม่ควรฟ้องนายกฯ แนะรอผล ‘ก.พ.ค.ตร.’

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ยืนยันที่มาร้อง ป.ป.ช. ในวันนี้ ไม่ได้เป็นการไล่เช็กบิล แต่เป็นการรักษาระเบียบกฎหมาย และปกป้องสิทธิของตัวเอง โดยผู้สื่อข่าวถามว่า การมายื่นวันนี้เป็นการจัดหนักหลังจากหายเงียบไป 2 วันหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า สาเหตุที่มายื่นไม่ได้เป็นการจัดหนัก แต่การทำอะไรนั้น จะต้องคิดและดำเนินการมาแล้วอย่างรอบคอบ

ผู้สื่อข่าวยังถามอีกว่า หลังจากนี้จะมีการยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรีและคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ยกคณะหรือไม่ หลังมีมติคำสั่งออกจากราชการของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ที่รักษาราชการแทนในขณะนั้น มีคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ตอบว่า ตอนนี้กำลังพิจารณาอยู่ว่าคณะกรรมการข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้กล่าวถึง นายกรัฐมนตรี ที่เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ในคดีของตน และของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ว่า เป็นแค่วาทกรรม หรือวลี ยืนยันการมายื่นกล่าวหานายกรัฐมนตรี ไม่ได้มีการโกรธเคืองเป็นการส่วนตัว แต่เนื่องจากนายกรัฐมนตรีทำผิดกฎหมาย ก็ต้องทำไปตามกฎหมาย ไม่เช่นนั้นองค์กรจะอยู่อย่างไร ส่วนวันนี้ไม่ได้บอกว่าตนเป็น ผบ.ตร. ในอนาคต ซึ่งอาจถูกให้ออกจากราชการเลยก็ได้ แต่องค์กรยังมีอยู่ หากไม่ทำตาม พ.ร.บ.ตำรวจฉบับนี้ ก็ต้องไปแก้ พ.ร.บ.ตำรวจ ไม่ให้มีคุณสมบัติอาวุโสและความรู้ความสามารถ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ส่วนการจะฟ้องใครเพิ่มเติมอีก ทั้งนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องฟ้องเพิ่มกรณีการเซ็นให้ตนกลับไปยังสำนักงานตำแหน่งแห่งชาติ และเรื่องเซ็นรับรองผลการประชุม ก.ตร./คณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) รวมถึงกูรู จะต้องขอตรวจสอบจากรายละเอียดให้รอบคอบก่อน เพราะมีเอกสารหลายอย่าง แต่ยืนยันว่ามีการฟ้องอย่างแน่นอน

สำหรับกรณีที่นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แสดงความเป็นห่วงว่า ไปไล่ฟ้องคนนั้นคนนี้ไปทั่ว อาจโดนไล่ยิงเหมือนสมัยก่อน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่าไม่ได้กังวลอะไร แค่ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ตอนนี้ก็ฟ้องร้องดำเนินคดีไปแล้วหลายคน ก็ไม่เห็นถูกยิงสักที มีเพียงโดนยิงรถในคดีเดิมเมื่อปี 2563

เมื่อถามว่า คดียิงรถ เปลี่ยนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติมาแล้วถึง 4 คน แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า และยังไม่สามารถจับตัวผู้กระทำความผิดได้เลย ประเด็นนี้บอกว่า คดีอยู่ระหว่างการสืบสวน ตนรู้ดีอยู่แล้วว่าใครทำ แต่พูดไม่ได้ เพราะจะไปเข้าความผิดหมิ่นประมาท ซึ่งเชื่อว่า ตอนนี้เวรกรรมก็กำลังตามทันคนที่ก่อเหตุ

ส่วนก่อนหน้านี้ที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงความขัดแย้งกับตัวเอง โดยบอกว่า ถ้าตายก็ยังไปเผาผี ไปร่วมงานฌาปนกิจได้อยู่นั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มองว่า อยากจะพูดอะไรก็พูดไป ถ้าแค่พูดเสียดสีก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าเข้าข่ายหมิ่นประมาทก็จะดำเนินคดี อย่างก่อนหน้านี้ก็ดำเนินคดีหมิ่นประมาทไปแล้วถึง 3 กรรม แต่ฝั่ง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ก็เลื่อนนัดไต่สวนมาตลอด