เมื่อวันที่ 3 ก.ค. พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้รายงานผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร นอกสถานที่ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อเร็วๆ นี้ โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้ทุกกระทรวงขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม โดยในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) พร้อมดำเนินการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเต็มที่ ซึ่งกำชับให้สถานศึกษาจัดกิจกรรมให้ความรู้โทษภัยยาเสพติดให้แก่นักเรียน หรือการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ตรวจติดตามเฝ้าระวังยาเสพติดไม่ให้นักเรียนเข้าไปเกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันขอให้มีการจัดป้ายรณรงค์เรื่องยาเสพติดภายในสถานศึกษา เพื่อให้นักเรียนได้ตระหนักรู้ถึงปัญหาดังกล่าวมากขึ้น ส่วนประเด็นการสุ่มตรวจฉี่ในกลุ่มเด็กอายุ 16 ปีขึ้นไปนั้น ก็เป็นนโยบายของรัฐบาลในเรื่องนี้ ซึ่ง ศธ. ที่มีสถานศึกษาในสังกัดพร้อมสนับสนุนและให้ความร่วมมือ

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ได้ติดตามการดำเนินการยกระดับโครงการประเมินผลนักเรียนนานาชาติ หรือ พิซา ปี 2025 ซึ่งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการจัดอบรมครูแกนนำ เพื่อนำไปสู่การขยายผลในสถานศึกษา โดยแนวทางการยกระดับผลประเมินพิซา ที่วางแผนอยากให้ปูทางเรื่องของพิซาตั้งแต่ระดับปฐมวัย ขณะเดียวกันตนมอบหมายให้สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สววท.) ได้ปรับการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ โดยมุ่งให้เด็กมีความสร้างสรรค์ตามแนวทางของพิซาให้มากขึ้นด้วย ขณะเดียวกันสภาการศึกษา (สกศ.) ได้จัดทำข้อเสนอขับเคลื่อนการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต) โดยขอให้สถาบันทดสอบทางการศึกษา (สทศ.) ได้นำแนวทางจาก สกศ. ไปขับเคลื่อนที่จะทำอย่างไรในการนำโอเน็ตมาวัดคุณภาพผู้เรียนให้สูงขึ้น อีกทั้งตนได้ย้ำการจัดสอบบรรจุครูของหน่วยงานต่างๆ ตนย้ำว่าขอให้ดำเนินการจัดสอบอย่างโปร่งใส เพราะต้องการตัดกระบวนการพวกตกเบ็ดหรือไปเรียกรับผลประโยชน์ให้หมดไป

“สำหรับประเด็นที่นายกฯ สั่งเร่งแก้ปัญหาเด็กและเยาวชนหลุดระบบการศึกษา 1.02 ล้านคน ให้เป็นศูนย์นั้น ขณะนี้ ศธ. ได้ทำความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามข้อสั่งการดังกล่าวแล้ว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอาจยังไม่ชัดเจน เพราะในจำนวนดังกล่าว มีทั้งเด็กที่ไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษาแต่ได้รับการศึกษาแบบโฮมสคูลและไปศึกษาต่อต่างประเทศด้วย ทั้งนี้ ศธ. มั่นใจว่าเราจะดำเนินการหยุดเด็กหลุดระบบการศึกษาให้เป็นศูนย์ให้ได้ ซึ่งแม้การสำรวจจะพบว่า เด็กบางส่วนไม่ต้องการที่จะเรียนต่อก็ไม่เป็นไร แต่ ศธ. จะจัดให้กรมส่งเสริมการรู้ (สกร.) เข้าไปต่อยอดเติมทักษะอาชีพให้เด็กมีอาชีพเลี้ยงครอบครัวตัวเองได้” พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว