ในการแข่งขันมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2024 กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ใกล้จะเปิดฉากขึ้นแล้วในเดือนกรกฎาคมนี้ แต่สิ่งที่เรียกเสียงฮือฮาได้เป็นอย่างมาก ก็คือลู่วิ่งที่ทางเจ้าภาพได้ทำขึ้นมาใหม่เป็นสีม่วง ที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ สนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส

หลายคนคงคุ้นชินกับลู่วิ่งที่เป็นสีแดง ตัดด้วยเส้นสีขาว หรือลู่วิ่งที่เป็นสีฟ้า ตัดด้วยเส้นสีขาว แต่ในความแปลกใหม่ของศึกโอลิมปิกในครั้งนี้ คือเราจะได้เห็นลู่วิ่งที่เป็นสีม่วง และประเทศไทยยังมีนักกีฬากรีฑาที่ได้จะทำการแข่งขันในสนามที่แปลกใหม่แห่งนี้ด้วย นั่นก็คือ “น้องบิว” ภูริพล บุญสอน ที่คว้าตั๋วโอลิมปิก 2024 ได้ ในรายการ วิ่ง 100 เมตร

สนามสต๊าด เดอ ฟรอซ์ ได้ทำการเปลี่ยนสีลู่วิ่งเป็น สีม่วง ก่อนการแข่งขันโอลิมปิก 2024 ที่จะมาถึง ที่ประเทศฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ ด้วยโทนสีที่ต่างกันออกไป ได้แก่ สีอ่อนสำหรับลู่วิ่ง สีเข้มสำหรับพื้นที่บริการ และสีเทาสำหรับทางโค้งที่ปลายทางโค้ง เพื่อเป็นการระลึกถึงลู่สีเทาที่เคยมีเมื่อ 100 ปีที่แล้ว สำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปารีสในปี 1924

อีกทั้งยังมีการเพิ่มจอภาพยักษ์จำนวนสองจอสำหรับการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก นอกจากนี้ ยังมีการปรับปรุงระบบแสงสว่างด้วยการเพิ่มไฟใหม่ถึง 650 ดวง เพื่อเน้นความตื่นเต้นของฝูงชนในฤดูร้อนนี้

แล้วทำไมถึงต้องเป็นสีม่วง?
นอกจากความสวยงามแล้วนั้น เพื่อให้คนที่เข้าชมการแข่งขัน หรือที่ชมอยู่ทางจอทีวีทั่วโลก สามารถที่จะเห็นนักกีฬาได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ทุกย่างก้าวหรือตอนกระโดด ด้วยการใช้สีที่สะดุดตาตัดกับพื้นสนามหญ้าสีเขียว และทำให้นักกีฬาสามารถวิ่งได้อย่างมั่นใจและมีสมาธิกับลู่ของตนเองมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเพิ่มความแม่นยำในการตัดสิน

โดยมีการเพิ่มเลนที่เก้าและสร้างบ่อทรายกลางสำหรับกระโดดไกลและเขย่งก้าวกระโดด โดยปกติจะมีสองเลนและบ่อทรายหนึ่งบ่อที่ปลายทั้งสองด้าน แต่ครั้งนี้ยังมีบ่อทรายตรงกลาง ซึ่งการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ จะเกิดขึ้นในสถานที่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในระดับโอลิมปิก และมีการกำหนดระดับความเรียบของสนามที่ต้องการ เพื่อให้ได้มาตรฐานที่สมบูรณ์แบบ