เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 3 ก.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ว่าที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ถูกร้องเรียนเรื่องทุจริตและศาลรับฟ้องแล้ว จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ว่าเคยเกิดเหตุที่สภามาแล้ว ซึ่งมี สส.ของพรรคเพื่อไทยถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในขณะที่ดำรงตำแหน่ง และปรากฏว่าหลังยุบสภามีการเลือกตั้งใหม่ สส.คนดังกล่าวก็สามารถลงรับสมัครได้อีกครั้ง โดยนักกฎหมายสภา ซึ่งตนไม่ขอเปิดเผยชื่อ เราได้ไปสอบถามว่าหากได้เป็น สส.อีกจะปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ ซึ่งนักกฎหมายก็บอกว่าคนละขั้นตอนกัน ตำแหน่งเดิมถูกหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ตำแหน่งใหม่ที่ได้มาก็ต้องว่ากันใหม่ ซึ่งฝ่ายกฎหมายของสภาเคยให้คำเสนอแนะมาแบบนี้ อดีตสส.คนดังกล่าวจึงไปลงสมัครเลือกตั้ง แต่ไม่ได้รับเลือก จึงไม่มีปัญหา

ส่วนกรณีของนายชาญ ตนเข้าใจว่าจะต้องเข้าเคสนี้ คือต้องรับรองแล้วศาลจะหยุดสั่งปฏิบัติหน้าที่อีกก็ได้ หรือไม่หยุดก็ได้ ในความเห็นของตน นายชาญผ่านการเลือกตั้งแล้วเข้าปฏิบัติหน้าที่ ส่วนศาลจะสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เมื่อถามว่า เมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) เลขาฯ กฤษฎีกาออกมาบอกว่า นายชาญต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยอัตโนมัติ หากมีการรับรองตำแหน่ง นายสมคิด กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นแนวความคิดเห็นหนึ่ง แต่พรรคเพื่อไทยคุยกันอีกแนวทางหนึ่ง ว่าให้ไปปฏิบัติหน้าที่แล้วศาลสั่งหยุด มีแค่ 2 เรื่องคือหยุดโดยอัตโนมัติ หรือศาลสั่งหยุด

เมื่อถามว่าในเรื่องนี้ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทยได้ตรวจสอบมาดีแล้วใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า เท่าที่ตนสอบถามเขาดูรายละเอียดแล้ว และนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทยก็ยืนยันว่าดูละเอียดแล้ว มันตำแหน่งคนละตอนกัน

เมื่อถามว่าหากสุดท้ายแล้วนายชาญ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่งผลเสียต่อพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า แล้วแต่ศาลสั่ง หากนายชาญ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็มีรองนายก อบจ. ก็สามารถทำงานต่อได้ หรือหากไม่มีรองนายก ก็เป็นปลัด อบจ. บริหารงานต่อจนกว่าคดีจะสิ้นสุด

เมื่อถามว่ากรณีดังกล่าวนายชาญรู้อยู่แล้ว ว่าไม่มีสิทธิแต่ยังไปสมัครใช่หรือไม่ นายสมคิดระบุว่าตนเชื่อว่า กกต.ได้ตรวจอย่างละเอียด ยืนยันว่าคุณสมบัติได้ คุณสมบัติไม่มีปัญหา แต่ตัวคำสั่งศาลไม่แน่ใจ