เด็กชาย ป. : คุณหมอครับ ขนาดสำคัญไหมครับ เพื่อน ๆ ชอบล้อผมว่าเล็กดีรสโต แต่ผมอยากขยายให้ใหญ่เหมือน
พี่ ๆ เค้าต้องทำอย่างไรครับ
หมอมาร์ค : น้อง ป. ครับ ไม่ต้องอาย ไม่ว่าบริษัทขนาด เล็ก กลาง หรือใหญ่ ก็ทำเรื่อง CSR และความยั่งยืนได้ แม้บริษัทใหญ่จะได้เปรียบเพราะมีทุน และบุคลากรมากกว่า บริษัทขนาดเล็กดีรสโตอย่างของน้อง ป. ก็สามารถใช้เทคนิค โดยเริ่มจากอุ่นเครื่องกับ Stakeholder ให้ได้ใจ อย่าเร่งรีบทำโครงการให้เสร็จไว ๆ ดูจังหวะสุขสม สร้างคุณค่าร่วมไปด้วยกัน แต่ถ้าอยากขยายให้ใหญ่ ก็ลองแต่งตัวด้านความยั่งยืน ESG แล้วเอาเข้าตลาดได้เลยครับ แต่อย่าไปตามคลินิกเถื่อนนะครับ อาจจะใหญ่จริง แต่เน่าได้
นาย ด. : คุณหมอครับ ผมอยากเสร็จช้า ๆ แบบถนนพระรามสอง ต้องฝึกเทคนิคอย่างไรครับ?
หมอมาร์ค : น้อง ด. ลองกลับไปอ่านฉบับก่อน ๆ นะครับ เริ่มต้นตามธรรมชาติแบบ E ต่อด้วย S เทคนิคฝึกขมิบ เอ้ย เขย่าคนในองค์กรวันละ 100 ครั้ง อย่างน้อยหนึ่งเดือนก็คงจะเริ่มเห็นผล แล้วเร่งความสุดยอดที่จุด G จึงจะจบกระบวนท่า ESG การเสร็จอย่างพอดีมีคุณภาพ สมความคาดหวัง ดีกว่าเสร็จช้าพระรามสองนะครับ มันเมื่อย
คุณ ตย. ไม่แน่ใจว่าเป็น น. หรือ นส. : คุณหมอคะขอทราบเทคนิคการใช้ประตูหลัง ทำท่าไหนจึงจะมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
หมอมาร์ค : อันนี้หมอยังไม่เคย และไม่แน่ใจคำถามสักเท่าไร น้อง ตย. หมายถึงประตูหนีไฟหลังตึกหรือเปล่าครับ ถ้าใช่ อย่างแรกก็คงจะต้องรู้ตำแหน่งว่าอยู่ตรงไหน ยามฉุกเฉินจะได้ออกถูก แล้วต้องฝึกฝนการเข้าออกบ่อย ๆ จะได้คล่องยามไฟไหม้ แต่ที่วงเล็บว่าเจ็บนี่ น่าจะเบียดเสียดกันระหว่างทำกิจกรรมหนีไฟนะครับ ว่าง ๆ แวะมาที่คลินิกให้หมอมาร์คตรวจได้
ตอนคืนซองคำตอบ ผมฝากพี่เทียร เรียน บก. ด้วยว่าคำถามชุดนี้ มันดูแปลก ๆ ไม่น่าจะใช่คำถามเรื่องความยั่งยืน แบบที่เคยส่งมา ผมว่าน่าจะส่งไปที่คอลัมน์ “เสพสม บ่มิสม” หรือรายการ “เสพสม บ่มิสม Stories” ของ คุณซานิกับคุณหมอปอที่กำลังฮิตน่าจะตอบได้เสียวกว่านะครับ ทั้งนี้ สามารถติดตามรับชมรายการ “เสพสม บ่มิสม Stories” ได้ ทุกคืนวันอังคาร เวลา 21.30 น. ทาง Youtube : DailynewsOnline.
