สืบเนื่องจากจากเหตุการณ์เครนก่อสร้างล้ม ที่ซอยอ่อนนุช 86 จนมีผู้เสียชีวิต 2 คนและบาดเจ็บด้วยนั้น เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ศ.ดร.อมร พิมานมาศ นายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การล้มของเครนก่อสร้างดังกล่าว น่าจะเป็นการวิบัติแบบพลิกคว่ำ (overturning) ซึ่งสังเกตได้จากโครงเหล็กพร้อมฐานราก หลุดออกจากเสาเข็มแล้วล้มมาทับสำนักงานชั่วคราว จนทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

สำหรับข้อสันนิษฐานสาเหตุอาจเกิดขึ้นได้จาก 1.เหล็กที่ยึดระหว่างเสาเข็มและฐานรากมีจำนวนไม่เพียงพอ รวมทั้งระยะฝังยึดเหล็กในฐานรากน้อยเกินไป  2.น้ำหนักที่ยก ทำให้เกิดโมเมนต์พลิกคว่ำ เกินกำลังต้านแรงดึงของเหล็กเดือยในเสาเข็ม ซึ่งยังเป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้นเท่านั้น ต้องเข้าไปรวบรวมข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด จึงจะระบุสาเหตุที่แท้จริงได้

ศ.ดร.อมร พิมานมาศ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านเกิดอุบัติเหตุเครนก่อสร้างถล่มหลายครั้ง และมักเกิดขึ้นในระหว่างที่มีการต่อความสูงหรือการติดตั้งเครน หรือเกิดจากการประกอบติดตั้งชิ้นส่วนเครนไม่ครบ การวิบัติจึงเกิดขึ้นจากส่วนบนก่อน แต่ในกรณีนี้คาดว่าเครนล้มเกิดขึ้นในช่วงใช้งาน ซึ่งเกิดขึ้นจากส่วนฐานก่อน จึงเป็นสาเหตุที่แตกต่างออกไป

สำหรับเครนดังกล่าว จัดว่าเป็นปั้นจั่นหอสูง (Tower crane) ซึ่งเป็นเครื่องจักรที่ใช้ยกสิ่งของในการก่อสร้าง และก็ยังถือว่าเป็นโครงสร้างด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นโครงเหล็กถักตั้งอยู่บนฐานรากคอนกรีตที่รองรับด้วยเสาเข็มอีกที ดังนั้นการออกแบบฐานรากและการเชื่อมต่อระหว่างฐานรากและเสาเข็มจึงเป็นส่วนสำคัญในการต้านทานการล้มคว่ำของเครน

ดังนั้น กฎหมายจึงกำหนดให้ต้องมีทั้งวิศวกรเครื่องกล และ วิศวกรโยธา เข้ามาดูแลและกำกับการใช้งานเครน นับตั้งแต่การออกแบบ จนถึงการควบคุมการใช้งาน เพื่อให้เกิดความปลอดภัย แต่ก็ยังเกิดอุบัติเหตุซ้ำซาก อย่างไรก็ตาม  ในวันพรุ่งนี้ ( 3 ก.ค.) สมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย จะเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ เพื่อให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป.