เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม. โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว “เอ้ สุชัชวีร์” ถึงกรณีเครนล้มก่อสร้างล้มย่านอ่อนนุชจนมีผู้บาดเจ็บและชีวิตว่า “เครนถล่มซ้ำซาก”ไร้การถอดบทเรียน แล้วก็ลืมกันไป รอให้เกิดเหตุใหม่ไม่รู้จบ?

เกิดเหตุเครนถล่มในไซต์งานก่อสร้างย่านอ่อนนุช มีผู้เสียชีวิต 2 คน ทราบไหมว่าประเทศไทยเกิดเหตุเครนถล่มเฉลี่ยเดือนละครั้ง มาหลายปีแล้ว สถิตินี้น่ากลัวมาก เหตุการณ์เครนถล่มเกิดขึ้นอยู่เสมอ จากสถิติเมื่อปีที่แล้ว เฉลี่ยถึงเดือนละครั้ง บางเดือนเกิดเหตุมากถึง 4 ครั้ง และทุกครั้งก็มักจะสร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และเรื่องจบลงที่การถอดบทเรียนครั้งแล้วครั้งเล่าแต่ก็ไม่เคยหยุดเหตุการณ์เลวร้ายนี้ได้

ตามหลักวิศวกรรม สาเหตุที่ทำให้เครนถล่มมีไม่กี่สาเหตุ คือ 1. การประกอบเครน “ไม่มีมาตรฐาน” ไม่มีการตรวจสอบ และ “ละเลย” ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน พบบ่อยมาก 2. การ “ยกน้ำหนักที่เกิน” กำหนดของเครนที่ใช้งาน อันตรายมาก เครนหักโค่นลงมา มักมีความสูญเสียชีวิต

น่าแปลกใจไหม ที่ทุกฝ่ายก็ทราบดีว่า มีไม่กี่สาเหตุ แต่ป้องกันไม่ได้ เพราะจริงๆแล้ว ผู้รับผิดชอบ ไม่เคย “ต้องรับผิดชอบ” ลงเอยด้วย “จ่ายชดเชย” ทำให้ เจ้าของโครงการ “มองเป็นเรื่องปกติ” เดี๋ยวก็เจรจากับทั้งเจ้าหน้าที่ และญาติคนงาน ทั้งที่ “ชีวิตคน” ประเมินค่าไม่ได้ และทำให้ “ไม่เกรงกลัวโทษ” เพราะไม่เคยได้รับโทษ จ่ายเงินก็จบ แบบนี้สังคมไทย จึง “ไม่เคยปลอดภัย”

ถึงวันนี้ ไม่เคย “ถอดบทเรียน” และ เมื่อไม่มี “เจ้าภาพ” ถอดออกมา ก็เชื่อได้เลยว่าสาเหตุก็จะวนอยู่แค่ไม่กี่เรื่องนี้เอง หาคนรับผิดชอบไม่เจอ ดังนั้น ผมและเพื่อนนักวิชาการ พร้อมเครือข่ายภาคประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติภัย ได้จัดทำและนำร่าง พ.ร.บ. เพื่อความปลอดภัยสาธารณะ พ.ศ. ยื่นต่อประธานรัฐสภา เพื่อให้พิจารณาเป็นกฎหมายบังคับใช้แล้ว

ซึ่งเนื้อหาของกฎหมาย นอกจะมีคณะกรรมการเพื่อความปลอดภัย เป็น “เจ้าภาพ” กำหนดมาตรการป้องกันความเสี่ยงในการเกิดอุบัติภัยแล้ว ยังมีเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปตรวจสอบสถานประกอบการต่างๆให้ปฎิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด สม่ำเสมอด้วย

ซึ่งหากมีกฎหมายฉบับนี้ เหตุสลดครั้งนี้คงไม่เกิดขึ้นแน่
ช่วยกัน มาร่วมสร้าง “สังคมไทยปลอดภัย” เพราะอันตรายอาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ หากคนไทยละเลย.