เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ศูนย์มะเร็ง ภายใต้กลุ่มศูนย์เพื่อความเป็นเลิศ แถลงข่าว “ธนาคารชีวภาพสำหรับโรคมะเร็งรามาธิบดี (Ramathibodi Tumor Biobank) ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 20387: 2018 ด้านธนาคารชีวภาพเป็นแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมขยายการเข้าถึงด้านวิจัยต่อเนื่องในทุกระดับ” ศ.คลินิก นพ.อาทิตย์ อังกานนท์ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาฯ กล่าวว่า ในปัจจุบันมีผู้ป่วยมะเร็งรักษาที่ รพ.รามาฯ มากกว่า 4,800 รายต่อปี ซึ่งการรักษาโรคมะเร็งจัดอยู่ในกลุ่มโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง รวมทั้งแนวทางการรักษาโรคมะเร็งแบบการแพทย์แม่นยำ จำเป็นต้องใช้หลักฐานทางการแพทย์ที่ได้จากการศึกษาวิจัยในห้องปฏิบัติการและในระดับคลินิก ซึ่งใช้เงินงบประมาณในการวิจัยสูง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งสูงขึ้น คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาฯ จึงได้จัดตั้งธนาคารชีวภาพสำหรับโรคมะเร็งรามาธิบดีขึ้น เพื่อรวบรวมตัวอย่างทางคลินิกของผู้ป่วยที่เหลือจากขั้นตอนการวินิจฉัยและรักษามะเร็ง สำหรับทำวิจัยในระยะยาว

และเพื่อส่งเสริมให้เกิดการจัดระเบียบการเก็บตัวอย่างทางคลินิกและข้อมูลชีวภาพของผู้ป่วยมะเร็งอย่างมีระบบ และมีประสิทธิภาพ และสนับสนุนให้เกิดการศึกษาวิจัยเชิงลึกทางพยาธิโมเลกุลโรคมะเร็งแบบสหสาขา ร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูลทางคลินิกที่ได้จากทะเบียนมะเร็งรามาธิบดี  โดยหวังว่าผลการวิจัยเหล่านี้ จะส่งผลให้เกิดการพัฒนารูปแบบการวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งแบบใหม่ได้เองในไทย ได้ในอนาคต จากความสำเร็จในครั้งนี้ที่ธนาคารชีวภาพสำหรับโรคมะเร็งรามาธิบดี ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO 20387: 2018 ด้านธนาคารชีวภาพเป็นแห่งแรกในประเทศไทย จะช่วยให้เกิดการพัฒนาและต่อยอดการดำเนินการในอนาคตได้เป็นอย่างดี  

นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า มาตรฐาน ISO 20387 ว่าด้วยมาตรฐานระบบบริหารคุณภาพและการจัดเก็บตัวอย่างและข้อมูลทางชีวภาพที่เกี่ยวข้อง ได้กำหนดข้อกำหนดทั่วไปหลายประการซึ่งครอบคลุมขั้นตอนต่างๆ เพื่อจัดการกับทรัพยากรชีวภาพแต่ละประเภท ครอบคลุมการเก็บตัวอย่าง ตั้งแต่ การรับ การติดแท็ก การจำแนกประเภท รวมถึงการตรวจสอบคุณภาพ และการจัดเก็บ ตลอดจนกระบวนการจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตัวอย่างทางชีวภาพ การกระจาย การขนส่ง และการทำลายตัวอย่าง การตรวจสอบย้อนกลับ และครอบคลุมถึงข้อกำหนดในการปกป้องข้อมูลที่เป็นความลับและการรักษาความเป็นกลางของธนาคารชีวภาพ ซึ่งหน่วยงานสำนักมาตรฐานห้องปฏิบัติการ (สมป.) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นหน่วยงานที่ให้การรับรองมาตรฐานธนาคารชีวภาพ ISO 20387 อ้างอิงจากมาตรฐานของ Asia Pacific Accreditation Cooperation (APAC) ในประเทศไทย ริเริ่มจัดตั้งธนาคารชีวภาพเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้จะมีการติดตรวจติดตามการดำเนินการตามมาตรฐาน ISO 20387 ต่อเนื่องทุก 2 ปี

นายแพทย์ณรงค์ฤทธิ์ มัศยาอานนท์ รองคณบดีฝ่ายคุณภาพและศูนย์ความเป็นเลิศ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า หลังจากการก่อตั้งธนาคารชีวภาพสำหรับโรคมะเร็งแบบครบวงจร คือเกิดการสร้างผลงานวิจัยด้านเวชศาสตร์ปริวรรต  ด้านงานวิจัยคลินิก ในวารสารที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติมากขึ้น โดยระยะสั้น คือการเป็นหน่วยงานต้นแบบในการศึกษาดูงานธนาคารชีวภาพของประเทศ ระยะกลาง จะเป็นแหล่งให้บริการจัดเก็บตัวอย่างทางชีวภาพมนุษย์ให้กับโครงการวิจัยทางคลินิก และองค์กรที่สนใจ รวมถึงการจำหน่าย Ramathibodi Tumor Biobank software ภายใต้สิทธิบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล

และในระยะยาว จะเปิดเป็นแหล่งบริการเตรียมตัวอย่างทางชีวภาพมนุษย์เพื่องานวิจัย ให้กับนักวิจัยทั้งใน และนอกคณะฯ ส่งเสริมงานวิจัยสหสถาบันกับทั้งภายในและนอกประเทศ เพื่อให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ในการวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็งได้เองในประเทศไทย เช่น การพัฒนาวิธีการตรวจพบโรคมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มผลสำเร็จในการรักษาให้หายขาด ส่งผลให้ผู้ป่วยมะเร็งมีชีวิตยืนยาวและมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ลดภาระทางเศรษฐกิจของประเทศ จากค่าใช้จ่ายด้านการรักษามะเร็งในผู้ป่วยที่จะลดลงในระยะยาว

ในเฟสที่ 1 เก็บตัวอย่างตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบันมีจำนวนชิ้นเนื้อมะเร็งสด ชิ้นเนื้อปกติ ชิ้นเนื้องอก องค์ประกอบของเลือดและสารคัดหลั่งต่าง ๆ ที่เหลือจากขั้นตอนการวินิจฉัยและรักษามะเร็งของผู้ป่วย ซึ่งแช่แข็งไว้รวมกันไว้มากกว่า 40,000 ตัวอย่าง จากผู้ป่วยกว่า 4,000 ราย และพัฒนา จดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ระบบจัดเก็บตัวอย่างสำหรับธนาคารชีวภาพ V.1 ขึ้นใช้เอง ร่วมกับ กลุ่มภารกิจศูนย์ปฏิบัติการด้านชีววิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ (ICBS) มหาวิทยาลัยมหิดล

เฟสที่ 2 ปี 2563 ทางธนาคารชีวภาพฯ ทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการเก็บตัวอย่างทางคลินิกจากผู้ป่วยมะเร็งร่วมกัน กับสถาบันมะเร็งแห่งชาติ และสถาบันประสาทวิทยา มีการวิจัยหาตัวบ่งชี้ทางชีวภาพสำหรับโรคมะเร็ง และการนำเซลล์ที่ได้จากชิ้นเนื้อมะเร็งสดของผู้ป่วยมาพัฒนาต่อยอดเป็นโมเดลออร์แกนอยด์มะเร็ง ในลักษณะสามมิติ เหมือนก้อนเนื้อเยื่อจำลองขนาดเล็กและสามารถคงคุณสมบัติทางชีววิทยาได้ใกล้เคียงกับเนื้อเยื่อมะเร็งในผู้ป่วยจริง เพื่อใช้เป็นโมเดลของโรคมะเร็งในการศึกษาความรุนแรงของโรค การค้นพบตัวยาใหม่ และการทดสอบประสิทธิภาพของตัวยาแทนตัวผู้ป่วย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความสำเร็จในการรักษามะเร็งแบบการแพทย์แม่นยำ ปัจจุบันมีโมเดลออร์แกนอยด์จากเนื้อเยื่อมะเร็ง เก็บไว้ในธนาคารชีวภาพฯ หลายชนิด ได้แก่ มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งเต้านม มะเร็งหายากในเด็ก และมะเร็งศีรษะและลำคอ 

ปี 2563-2565 ธนาคารชีวภาพฯ ปรับปรุงระบบการจัดเก็บตัวอย่างทางคลินิก เพิ่มการจัดการข้อมูลแบบสหสถาบัน และจดลิขสิทธิ์โปรแกรม Ramathibodi Comprehensive Tumor Biobank V.2 โดยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากแหล่งทุน บพค. ต่อมาในปี 2564-2566 ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากแหล่งทุน สวรส. ภายใต้โปรแกรม Genomics Thailand เพื่อพัฒนาโปรโตคอล และคุณภาพของตัวอย่างทางคลินิกที่จัดเก็บไว้ในธนาคารชีวภาพฯ ปี 2566 ถึงปัจจุบัน ได้ทำความร่วมมือด้านธนาคารชีวภาพ เตรียมความพร้อมเพื่อเข้ารับการรับรอง ISO20387 Biotechnology-Biobanking และร่วมกันจัดตั้งเครือข่ายธนาคารชีวภาพประเทศไทย (Thai Biobanking Network) กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และมหาวิทยาลัยขอนแก่น เพื่อพัฒนาโปรแกรมการทดสอบความชำนาญตัวอย่างทางชีวภาพมนุษย์สำหรับธนาคารชีวภาพทั้งในประเทศและประเทศเพื่อนบ้านที่สนใจ และส่งต่อให้กองทดสอบความชำนาญ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นผู้ให้บริการต่อไป โดยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากแหล่งทุน บพข.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านโรคมะเร็ง คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล โทร. 0-2201-2682, 0-2201-0049  หรือเข้าชมข้อมูลการดำเนินงานได้ทางเว็บไซต์ https://www.rama.mahidol.ac.th/cancer_center/th/tumor_biobank และสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนเพื่อพัฒนาการวินิจฉัยและรักษาโรคมะเร็ง ต่อยอดระบบสุขภาพของประเทศไทยด้วยการร่วมบริจาคสมทบทุน มูลนิธิรามาธิบดีฯ ผ่านกองทุน:ศูนย์ความเป็นเลิศด้านโรคมะเร็ง เพื่อการพัฒนาการวินิจฉัยและการรักษาโรคมะเร็ง มูลนิธิรามาธิบดี.