นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด (รฟฟท.) ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง เปิดเผยว่า หลังจากเริ่มดำเนินนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค. 66 ทั้ง 2 เส้นทาง ได้แก่ สายธานีรัถยา ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีรังสิต และสายนครวิถี ช่วงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีตลิ่งชัน และเริ่มให้บริการเดินทางข้ามสายระหว่างรถไฟฟ้าสายสีแดง และรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงคลองบางไผ่-เตาปูน ในอัตราค่าโดยสารรวมกันสูงสุดเพียง 20 บาท ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 66 ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับที่ดี ปริมาณผู้โดยสารเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ก่อนเริ่มนโยบาย รถไฟฟ้าสายสีแดง มีปริมาณผู้ใช้บริการเฉลี่ยในวันธรรมดา (จันทร์-ศุกร์) อยู่ที่ 21,813 คน/วัน แต่หลังจากเริ่มนโยบาย มีจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 30,952 คน/วัน เพิ่มขึ้น 41.90% และสามารถทำสถิติผู้ใช้บริการสูงสุด (New High) อยู่ที่ 39,567 คน เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 67 หรือหากนับจำนวนผู้โดยสารรวมตั้งแต่เริ่มนโยบายอัตราค่าโดยสารสูงสุด 20 บาท จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลากว่า 8 เดือน มีจำนวนผู้โดยสารรวมสูงถึง 7,078,082 คน ทั้งนี้ ก่อนเริ่มนโยบายมีการประเมินว่า อาจส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้ลดลง แต่เนื่องจากมีปริมาณผู้ใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จึงคาดการณ์ว่าเมื่อดำเนินการตามนโยบายครบ 1 ปี รายได้จะเท่ากับก่อนดำเนินนโยบาย จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทฯ หากเปรียบเทียบกับช่วงก่อนเริ่มนโยบาย และไม่ต้องชดเชยรายได้ที่สูญเสียไปด้วย สะท้อนให้เห็นว่า นโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาท ประสบผลสำเร็จอย่างมาก สามารถบรรลุเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ที่จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชนได้ อย่างไรก็ตามขณะนี้รายได้ยังคงน้อยกว่าก่อนดำเนินนโยบายประมาณ 3%

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ได้มอบหมาย และติดตามผลการให้บริการประชาชนของ รฟฟท. อย่างต่อเนื่องเป็นระยะ ทั้งด้านการเดินทางเชื่อมต่อกับระบบขนส่งอื่น ต้องมีความสะดวก และไร้รอยต่อ รวมถึงมีความปลอดภัยในทุกการเดินทาง พร้อมสนับสนุนให้มีการนำนวัตกรรม เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาบูรณาการโครงข่ายคมนาคมทุกระบบเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่น พัฒนาองค์กรสู่การเป็นผู้นำในการให้บริการเดินรถไฟฟ้าด้วยมาตรฐานระดับสากล มุ่งเน้นสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ผู้ใช้บริการ รักษามาตรฐานการปฏิบัติงานในด้านการเดินรถ และซ่อมบำรุง พัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพอยู่เสมอ รวมถึงรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจขององค์กร อีกทั้งสามารถเชื่อมโยงทุกการเดินทางกับระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย และยกระดับคุณภาพชีวิตชานเมืองได้อย่างยั่งยืน.