จากกรณี นายสาคร วัย 63 ปี ชาวสุพรรณบุรี ใช้เชือกผูกคอตาย พร้อมเขียนจดหมายสั่งเสีย ตัดพ้อชีวิต “เราคนจน มีทางเดียวคือเงินฌาปนกิจ” เพราะความเข้าใจผิดไม่มีเงินช่วยลูกชายวัย 14 ปี จ่ายค่าปรับ 1,000 บาท หลังถูกพ่อคู่กรณีตบหน้าทำร้ายร่างกาย ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องไปแล้วนั้น

หดหู่ใจ! พ่อยอมตายผูกคอหวังเงินค่าทำศพ ช่วยลูกพ้นคดีถูกทำร้ายแต่โดนปรับ

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 2 ก.ค. พ.ต.อ.เกียรติชัย เกิดโชค ผกก.สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 21.30 น. คืนวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมาได้รับแจ้งเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันที่บ้านกระบอก หมู่ 4 ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.ผจญ หว่างอิ้ง รอง ผกก.ป.สภ.สองพี่น้อง พ.ต.ท.นาวิน กันพิพิช สวป.สภ.สองพี่น้อง ร.ต.อ.อนุพจน์ อินทรเสนี รอง สวป.สภ.สองพี่น้อง จ.ส.ต.ธนวันต์ ตรีสุคนธ์ ส.ต.ท.รัชชานนท์ สมศักดิ์ ส.ต.ท.ฉันทวัฒน์ ทินณวงศ์ ส.ต.ต.มารุต กองม่วง พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลหัวโพธิ์ เข้าไประงับเหตุ

โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไปถึงพบเพียงนายคมสันต์ อายุ 26 ปี อยู่ในที่เกิดเหตุแสดงท่าทางมีพิรุธ จึงตรวจค้นพบของกลางเป็นเมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า 6 เม็ด ในตัว เลยทำการตรวจปัสสาวะ ปรากฏว่ามีผลเป็นบวก มีสีม่วง จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า มีสารเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน หรือยาบ้า ในร่างกาย และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยไม่ได้รับอนุญาต โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนคู่กรณีคาดว่าเห็นกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มา จึงพากันวิ่งหนีแตกกระจาย แยกย้ายกันออกไปคนละทิศละทาง

จากการสอบสวน นายคมสันต์ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นลูกชายคนกลางของ นายสาคร ผู้เสียชีวิตจากการผูกคอตาย หลังเข้าใจผิดเรื่องค่าปรับ ทำให้คิดว่าเมื่อคดีไปถึงศาล จะไม่มีเงินสู้คดีให้ลูกชายคนเล็ก และคนในครอบครัวได้รับฟังจนเรื่องถึงสื่อมวลชน จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดขยายวงกว้างออกไป โดยผู้ต้องหาตั้งใจมาร่วมฟังพระสวดงานศพพ่อคืนแรก แต่ก็มาถูกตำรวจจับกุมยาเสพติดเสียก่อน ชุดจับกุมจึงนำตัวพร้อมยาบ้าของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.สองพี่น้อง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป