เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำในที่ประชุม ครม. ว่าการแก้ปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนและสำคัญของรัฐบาล โดยนายกฯ ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ บูรณาการ ระดมความร่วมมือกับตำรวจ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) หน่วยงานรัฐต่างๆ ภาคประชาชนในพื้นที่ เพื่อดำเนินการ ดังนี้ 1.เอกซเรย์ทุกหมู่บ้านและทุกพื้นที่ด้วยการระดมกำลังตรวจปัสสาวะผู้ต้องสงสัยหรือกลุ่มเสี่ยงทุกคนที่มีอายุ 16 ปี ขึ้นไป 2.แยกผู้เสพยาเสพติดออกไปรับการบำบัด รวมถึงให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงาน ป.ป.ส. และกระทรวงกลาโหม ขยายผลในการจับกุมผู้ขายเพื่อดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด 3.ให้กระทรวงสาธารณสุขแยกแยะผู้เสพตามระดับความรุนแรงมาบำบัด รักษา และส่งคืนชุมชน เมื่อมีความพร้อม ขณะเดียวกันให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม ร่วมกันจัดหาสถานที่บำบัดให้เพียงพอ และให้แน่ใจว่าจะไม่กลับไปเสพยาอีก

นายชัย กล่าวอีกว่า 4.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และกระทรวงแรงงาน ดำเนินการฝึกอาชีพและหางานให้ผู้ที่ผ่านการบำบัด เพื่อให้มีรายได้เพียงพอกับการดำรงชีวิต และไม่กลับไปเป็นผู้เสพอีก 5.ให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เร่งหามาตรการที่เหมาะสมในการสอดส่องดูแลไม่ให้เยาวชนเสพยา และส่งเสริมการปลูกฝังค่านิยมคุณค่าแก่เด็กและเยาวชนต้องไม่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด 6.ให้สำนักงาน ป.ป.ส. เป็นเสนาธิการในการกำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดที่ท้าทาย กำหนดมาตรการที่เหมาะสมให้กับจังหวัด พร้อมสนับสนุนการประสานงาน และทรัพยากรที่จำเป็นต่อไป อีกทั้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ต้องร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ นายกฯ กำชับให้ ครม. ช่วยกันสนับสนุนการกวาดล้างยาเสพติดให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ทั้งการป้องกัน การปราบปราม และการบำบัด