เมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ถนนอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เป็นประธานในพิธีบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ พิธีสงฆ์ และเซ่นไหว้แม่ย่านางเรือพระราชพิธีเสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินด้วยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคจำนวน 14 ลำ โดยมีเรือพระราชพิธีเข้าร่วม 8 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์, เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช, เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9, เรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์, เรือเอกชัยเหินหาว, เรือครุฑเตร็จไตรจักร, เรือกระบี่ปราบเมืองมาร และเรืออสุรวายุภักษ์

ทั้งนี้ ภายหลังจากเจ้าพนักงานอ่านโองการเสร็จ ผบ.ทร. ได้เริ่มประกอบพิธีสงฆ์ จุดธูปเทียน บูชาพระรัตนตรัย พระสงฆ์ให้ศีล เจริญพระพุทธมนต์ สวดอนุโมทนา ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ จากนั้นผู้บัญชาการททารเรือ เจิมเรือ ปิดทอง ผูกผ้าสี คล้องพวงมาลัย โปรยข้าวตอกดอกไม้ เพื่อบวงสรวงแม่ย่านางเรือ และรำบวงสรวงโดยกรมศิลปากร เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี ซึ่งในเวลาเดียวกันที่ โรงเรือพระราชพิธีท่าวาสุกรี ก็ได้จัดให้มี พิธีบวงสรวงเรือพระราชพิธีอีก 6 ลำ ได้แก่ เรือเอกชัยหลาวทอง, เรือกระบี่ราญรอนราพณ์, เรือครุฑเหินเห็จ, เรือพาลีรั้งทวีป, เรือสุครีพครองเมือง และเรืออสุรปักษี

สำหรับการบวงสรวงพระภูมิเจ้าที่ เป็นพิธีกรรมในการยอมรับนับถือและให้การคารวะบูชาต่อพระภูมิเจ้าที่ที่ปกปักรักษา คุ้มครอง ป้องกันสถานที่นั้นๆ พิธีกรรมเป็นการสวดอาราธนาบารมี พระพุทธานุภาพ พระธรรมานุภาพ พระสังฆนุภาพ เทพพรหมเทวา รวมถึงท้าวจตุมหาราช ผู้เป็นใหญ่ในทั่วทิศทั้ง 4 ลงมาประทับที่สถานประกอบพิธี และพิธีเซ่นไหว้แม่ย่านางเรือ เป็นความเชื่อแต่โบราณว่าเรือทุกลำมีแม่ย่านางเรือสิงสถิตอยู่ คอยปกปักรักษา คุ้มครองป้องกันอันตรายทั้งปวง ก่อนออกเรือทุกครั้ง หรือการนำเรือไปใช้งานจึงมักกระทำพิธีบูชาแม่ย่านางเรือก่อนเพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นขวัญกำลังใจแก่กำลังพลประจำเรือ

พล.ร.อ.อะดุง กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการจัดกระบวนเรือพระราชพิธี ว่า เดือนนี้เป็นเดือนมหามงคลครบรอบ 72 พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งวันนี้กองทัพเรือ กรมศิลปากร สำนักพระราชวัง เป็น 3 หน่วยงานหลัก ที่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้ประกอบพิธี ส่วนวันนี้เป็นการบวงสรวงและไหว้แม่ย่านางเรือ หลังจากนี้ในวันที่ 4 กรกฎาคม จะนำเรือทั้งหมดลงน้ำ และนำไปจอดไว้อู่ธนบุรี ซึ่งเป็นอู่แห้งของกองทัพเรือ

ขณะที่วันที่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป จะเริ่มซ้อมขบวนเรือทั้ง 52 ลำ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง รวม 12 สัปดาห์ และวันซ้อมใหญ่จะแต่งชุดเหมือนจริงคือ 15 และ 22 ตุลาคม ทั้งนี้ ยืนยันว่าเรือทุกลำพร้อม 100% แล้ว บทเห่เรือก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนกำลังพลได้ซักซ้อมตามเวลาที่กำหนด ซึ่งกองทัพเรือ กรมศิลปากร และสำนักพระราชวัง จะถวายงานนี้ให้สมพระเกียรติสูงสุด และจะทำให้ดีที่สุด เพื่อประชาชนคนไทยและพระองค์ท่าน

“วันที่ 28 ก.ค. และวันที่ 29 ก.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชานุญาต ให้เรานำเรือสุพรรณหงส์ เรือนารายณ์ทรงสุบรรณรัชกาลที่ 9 และเรืออนันตนาคราช มาจอดไว้ที่กลางแม่น้ำ จัดแสดงแบบผูกทุ่น ที่ท่าราชวรดิฐ พร้อมกับการสาธิตเห่เรือ 2 รอบคือ เวลา 15.00 น. และ 18.00 น. โดยในช่วงกลางคืนจะมีแสงไฟประกอบ สำหรับพระราชพิธีในครั้งนี้ ใช้กำลังพล 2,200 นาย ซึ่งทหารเรือทุกนาย รู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงที่สุดในชีวิต ที่ได้ถวายงานนี้ และจะทำงานนี้ถวายพระองค์ท่านอย่างดีที่สุด ถึงแม้ว่าผมจะเกษียณอายุราชการ แต่จะเตรียมทุกอย่างให้ดีที่สุด เพื่อให้งานนี้สมบูรณ์ที่สุด” ผบ.ทร. กล่าวพร้อมน้ำตาคลอ.